Page 134 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 134

126





                                                             ิ
                                                                                        ี
                เม่อเหตุสุดวิสัยหรือเหตุจ�ำเป็นดังกล่ำวในวรรคหน่งได้ส้นสุดลงแล้ว ถ้ำยังมีควำมจ�ำเป็นท่จะต้อง
                  ื
                                                         ึ
           ควบคุมผู้ต้องหำไว้ต่อไปอีก และกำรควบคุมน้นยังไม่ครบก�ำหนดระยะเวลำตำมบทบัญญัติแห่งประมวล
                                                ั
                                                                                             ั
                                                                               ื
           กฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมอำญำว่ำด้วยกำรขัง ให้ร้องขอต่อศำลทหำรท่มีอ�ำนำจเพ่อส่งขังผู้ต้องหำน้น
                                                                                 ั
                                                                     ี
           ต่อไปได้
                ให้น�ำควำมในวรรคหน่งและวรรคสองมำใช้บังคับแก่บุคคลตำมมำตรำ ๑๖ ซ่งเป็นผู้ต้องหำใน
                                                                                ึ
                                   ึ
           คดีอำญำที่ไม่อยู่ในอ�ำนำจศำลทหำรตำมมำตรำ ๑๔ ด้วยโดยอนุโลม
                กำรควบคุมผู้ต้องหำนี้ให้ถือว่ำเป็นกำรควบคุมตำมประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมอำญำ
                                                ลักษณะ ๓
                                              กำรสอบสวน

                                           ________________


                มำตรำ ๔๗ นำยทหำรพระธรรมนูญหรืออัยกำรทหำร มีอ�ำนำจท�ำกำรสอบสวนคดีอำญำท้งปวง
                                                                                          ั
                                                                              ั
                                                                 ั
           ซ่งอยู่ในอ�ำนำจศำลทหำร แต่ถ้ำมีเหตุอันสมควรผู้บังคับบัญชำจะส่งให้นำยทหำรช้นสัญญำบัตรท�ำกำร
            ึ
           สอบสวนก็ได้ ทั้งนี้ ไม่ตัดอ�ำนำจของพนักงำนสอบสวนตำมประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมอำญำ
                กำรสอบสวนดังกล่ำวในวรรคก่อนให้ถือว่ำเป็นกำรสอบสวนตำมประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำ
           ควำมอำญำด้วย
                                                   ี
                เพ่อประโยชน์แก่กำรสอบสวนให้ผู้มีหน้ำท่ท�ำกำรสอบสวนมีอ�ำนำจออกหมำยเรียกให้บุคคลใด
                  ื
           มำให้ถ้อยค�ำ หรือส่งสิ่งใดที่จะใช้เป็นพยำนหลักฐำนได้
                                                                                 ี
                                                                       ั
                มำตรำ ๔๘ อัยกำรทหำรมีอ�ำนำจท�ำกำรสอบสวนเพ่มเติมหรือจะส่งให้ผู้มีหน้ำท่สอบสวนท�ำกำร
                                                           ิ
           สอบสวนเพิ่มเติมก็ได้
                                                ลักษณะ ๔

                            กำรฟ้องคดีอำญำและคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอำญำ
                                           ________________



                มำตรำ ๔๙ ศำลทหำรในเวลำปกติให้อัยกำรทหำรหรือผู้เสียหำยซ่งเป็นบุคคลท่อยู่ในอ�ำนำจ
                                                                                   ี
                                                                        ึ
                                                                        ี
           ศำลทหำรมีอ�ำนำจเป็นโจทก์ฟ้องคดีอำญำ แต่ถ้ำผู้เสียหำยมิได้เป็นบุคคลท่อยู่ในอ�ำนำจศำลทหำรแล้ว
           ต้องมอบคดีให้อัยกำรทหำรเป็นโจทก์
                ศำลทหำรในเวลำไม่ปกติหรือศำลอำญำศึก หรือศำลท่พิจำรณำพิพำกษำคดีแทนศำลอำญำศึก
                                                             ี
           ตำมควำมในมำตรำ ๔0 และมำตรำ ๔๓ ให้อัยกำรทหำรเท่ำนั้นมีอ�ำนำจเป็นโจทก์ ผู้เสียหำยจะเป็นบุคคล
           ที่อยู่ในอ�ำนำจศำลทหำรหรือไม่ก็ตำม ต้องมอบคดีให้อัยกำรทหำรเป็นโจทก์
   129   130   131   132   133   134   135   136   137   138   139