Page 136 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 136

128





                                                     ี
                                                          ้
                                                          ั
                ให้ศำลจ่ำยเงินรำงวลและค่ำใช้จ่ำยแก่ทนำยทศำลตงตำมมำตรำน โดยคำนงถงสภำพแห่งคดีและ
                                ั
                                                     ่
                                                                             ึ
                                                                               ึ
                                                                          �
                                                                     ี
                                                                     ้
                               ี
                             ั
                                          ี
           สภำวะทำงเศรษฐกิจ ท้งน้ ตำมระเบียบท่กระทรวงกลำโหมก�ำหนดโดยควำมเห็นชอบของกระทรวงกำรคลัง
                มำตรำ ๕๗ เม่อมีเหตุผลท่อำจเป็นกำรขัดขวำงหรือไม่สะดวก หรือไม่อำจด�ำเนินคดีในศำลทหำร
                                      ี
                             ื
                                        ื
                                     ื
                                                                                        ื
           ท้องถ่นได้ ถ้ำโจทก์หรือจ�ำเลยย่นเร่องรำวต่อศำลทหำรสูงสุดขอให้โอนคดีไปยังศำลทหำรแห่งอ่น และ
               ิ
           ศำลทหำรสูงสุดอนุญำตตำมค�ำขอนั้น ก็ให้สั่งโอนคดีไปยังศำลดั่งที่ศำลทหำรสูงสุดระบุไว้
                ค�ำสั่งของศำลทหำรสูงสุดนี้ให้เป็นอันถึงที่สุด
                         ๑9
                                                                                  ื
                                                                      ื
                                                                              ื
                มำตรำ ๕๘  ศำลทหำรมอ�ำนำจส่งประเดนให้ศำลทหำรแห่งอนหรอศำลพลเรอนสบพยำน ใหศำล
                                     ี
                                                                  ่
                                                                  ื
                                                  ็
                                                                                           ้
           ที่รับประเด็นมีอ�ำนำจและหน้ำที่ดังศำลเดิม และให้มีอ�ำนำจส่งประเด็นไปยังศำลอื่นอีกต่อหนึ่งได้
                กำรส่งประเด็นไปยังศำลพลเรือนตำมควำมในวรรคแรก ถ้ำอัยกำรทหำรไม่ไปด�ำเนินคดีเองก็ให้
           พนักงำนอัยกำรด�ำเนินคดีแทนอัยกำรทหำร
                มำตรำ ๕๙ กำรพิจำรณำและสืบพยำนในศำลทหำร ถ้ำจ�ำเลยให้กำรรับสำรภำพหรือไม่ติดใจฟัง
           จะไม่ท�ำต่อหน้ำจ�ำเลยนั้นก็ได้
                         ๒0
                มำตรำ 6๐  ห้ำมมิให้พิพำกษำหรือสั่งเกินค�ำขอหรือที่มิได้กล่ำวในฟ้อง
                                          ี
                ถ้ำศำลเห็นว่ำข้อเท็จจริงตำมท่ปรำกฏในกำรพิจำรณำแตกต่ำงกับข้อเท็จจริงดังท่กล่ำวในฟ้อง
                                                                                   ี
           ให้ศำลยกฟ้องคดีนั้น เว้นแต่ข้อแตกต่ำงนั้นมิใช่ในข้อสำระส�ำคัญและทั้งจ�ำเลยมิได้หลงต่อสู้ ศำลจะลงโทษ
           จ�ำเลยตำมข้อเท็จจริงที่ได้ควำมนั้นก็ได้
                        ี
                                                                              ี
                                  ั
                                                           ี
                ในกรณีท่ข้อแตกต่ำงน้นเป็นเพียงรำยละเอียด เช่น เก่ยวกับเวลำหรือสถำนท่กระท�ำควำมผิดหรือ
           ต่ำงกันระหว่ำงกำรกระท�ำผิดฐำนลักทรัพย์ กรรโชก รีดเอำทรัพย์ ฉ้อโกง โกงเจ้ำหน้ยักยอก รับของโจร และ
                                                                           ี
           ท�ำให้เสียทรัพย์ หรือต่ำงกันระหว่ำงกำรกระท�ำผิดโดยเจตนำกับประมำท มิให้ถือว่ำต่ำงกันในข้อสำระส�ำคัญ
            ั
                                                                   ี
                                                                ื
           ท้งมิให้ถือว่ำข้อท่พิจำรณำได้ควำมน้นเป็นเร่องเกินค�ำขอหรือเป็นเร่องท่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษ เว้นแต่
                                       ั
                                             ื
                        ี
           จะปรำกฏแก่ศำลว่ำกำรที่ฟ้องผิดไปเป็นเหตุให้จ�ำเลยหลงต่อสู้ แต่ทั้งนี้ ศำลจะลงโทษจ�ำเลยเกินอัตรำโทษ
           ที่กฎหมำยก�ำหนดไว้ส�ำหรับควำมผิดที่โจทก์ฟ้องไม่ได้
                ถ้ำศำลเห็นว่ำข้อเท็จจริงบำงข้อดังกล่ำวในฟ้อง และตำมท่ปรำกฏในทำงพิจำรณำไม่ใช่เป็นเร่อง
                                                                ี
                                                                                            ื
           ที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษ ห้ำมมิให้ศำลลงโทษจ�ำเลยในข้อเท็จจริงนั้น ๆ
                                              ั
                ถ้ำศำลเห็นว่ำข้อเท็จจริงตำมฟ้องน้นโจทก์สืบสม แต่โจทก์อ้ำงฐำนควำมผิดหรือบทมำตรำผิด
           ศำลมีอ�ำนำจลงโทษจ�ำเลยตำมฐำนควำมผิดที่ถูกต้องได้
                ถ้ำควำมผิดตำมท่ฟ้องนั้นรวมกำรกระท�ำหลำยอย่ำง แต่ละอย่ำงอำจเป็นควำมผิดได้อยู่ในตัวเอง
                              ี
           ศำลจะลงโทษจ�ำเลยในกำรกระท�ำผิดอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดตำมที่พิจำรณำได้ควำมก็ได้
                ๑9  มำตรำ ๕๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติธรรมนูญศำลทหำร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕0๓
                ๒0  มำตรำ ๖0 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติธรรมนูญศำลทหำร (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๕๘
   131   132   133   134   135   136   137   138   139   140   141