Page 137 - หนังสือคู่มือดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 137

129





                                                 ลักษณะ 6
                                             กำรอุทธรณ์และฎีกำ

                                             ________________


                           ๒๑
                                                                                      ี
                  มำตรำ 61  ภำยใต้บังคับบทบัญญัติว่ำด้วยกำรอุทธรณ์และฎีกำตำมพระรำชบัญญัติน้ ค�ำพิพำกษำ
                                                                                         ั
                   ั
            หรือค�ำส่งของศำลทหำรในเวลำปกติ โจทก์ จ�ำเลย ผู้มีอ�ำนำจแต่งต้งตุลำกำร หรือผู้มีอ�ำนำจส่งลงโทษ
                                                                   ั
                                                ั
                                                                                        ื
                           ี
                                            ั
                                                                             �
                                                                                ิ
                         ื
                                                ้
                                          ิ
                                                  ้
                                                                                             ั
                                                                                             ่
                                                    ั
                                                                   ื
                                                                ื
                                                         ั
                                                                                          �
                 ุ
                                                  ี
            อำจอทธรณ์หรอฎกำได้ภำยในสำมสบวน ทงน นบแต่วนอ่ำนหรอถอว่ำได้อ่ำนคำพพำกษำหรอคำสงให้
            จ�ำเลยฟัง ๒๒
                                    ั
                  ค�ำพิพำกษำหรือค�ำส่งของศำลทหำรในเวลำไม่ปกติ และศำลอำญำศึกหรือศำลท่พิจำรณำ
                                                                                        ี
            พิพำกษำคดีแทนศำลอำญำศึกตำมมำตรำ ๔0 และมำตรำ ๔๓ ห้ำมอุทธรณ์หรือฎีกำ
                              ๒๓
                  มำตรำ 61/1  กำรอุทธรณ์เฉพำะปัญหำข้อกฎหมำย ให้อุทธรณ์โดยตรงไปยังศำลทหำรสูงสุด
            แต่หำกมีฝ่ำยอ่นซ่งมีสิทธิอุทธรณ์ ได้อุทธรณ์ปัญหำข้อเท็จจริงด้วย ให้ถือว่ำผู้อุทธรณ์เฉพำะปัญหำ
                         ื
                           ึ
            ข้อกฎหมำยดังกล่ำวอุทธรณ์ต่อศำลทหำรกลำง
                                           ื
                       ุ
                                                                                             ั
                                                                         ั
                                       ึ
                  กำรอทธรณ์ตำมวรรคหน่งให้ย่นต่อศำลทหำรช้นต้น ให้ศำลทหำรช้นต้นพิจำรณำและมีค�ำส่งว่ำ
                                                        ั
            เป็นกำรอุทธรณ์เฉพำะปัญหำข้อกฎหมำยต่อศำลทหำรสูงสุดหรือไม่
                                   ั
                         ี
                  ในกรณีท่ศำลทหำรช้นต้นเห็นว่ำเป็นกำรอุทธรณ์ในปัญหำข้อเท็จจริง ให้ส่งส�ำนวนไปยังศำลทหำร
                                                                    ั
                                                                         ั
            กลำง กรณีดังกล่ำวผู้อุทธรณ์อำจย่นค�ำร้องอุทธรณ์ค�ำส่งของศำลทหำรช้นต้นน้นไปยังศำลทหำรสูงสุดภำยใน
                                       ื
                                                       ั
                                        ั
                                                   ั
            ก�ำหนดสิบห้ำวันนับแต่วันฟังค�ำส่งศำลทหำรช้นต้น ถ้ำศำลทหำรสูงสุดพิจำรณำแล้วเห็นว่ำอุทธรณ์
            ตำมวรรคหนึ่งเป็นอุทธรณ์ในปัญหำข้อเท็จจริง ให้ส่งส�ำนวนไปให้ศำลทหำรกลำงพิจำรณำพิพำกษำต่อไป
                                   ี
                  มำตรำ 6๒ ในคดีท่ศำลทหำรกลำงพิพำกษำยืนตำมศำลทหำรช้นต้นให้ยกฟ้องโจทก์โดยอำศัย
                                                                       ั
            ข้อเท็จจริง หรือพิพำกษำยืนให้ลงโทษ หรือแก้ไขเล็กน้อย และจ�ำคุกจ�ำเลยไม่เกินห้ำปี หรือปรับหรือทั้งจ�ำ
                                                                                             ึ
              ั
                                                      ั
            ท้งปรับแต่โทษจ�ำคุกไม่เกินห้ำปี หรือศำลทหำรช้นต้นพิพำกษำให้ลงโทษจ�ำคุกจ�ำเลยไม่เกินหน่งปี
            หรือปรับไม่เกินหน่งพันบำท หรือท้งจ�ำท้งปรับ แม้ศำลทหำรกลำงพิพำกษำแก้ไขมำกก็ตำม ถ้ำศำลทหำรกลำง
                           ึ
                                       ั
                                           ั
                                                                                            ี
                                          ี
                                                ี
            ยังคงลงโทษจ�ำเลยไม่เกินก�ำหนดท่ว่ำมำน้ ห้ำมมิให้ฎีกำในปัญหำข้อเท็จจริง และในกรณีเช่นน้มิให้
            น�ำบทบัญญัติมำตรำ ๒๒๑ แห่งประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมอำญำมำใช้บังคับ
                  มำตรำ 6๓ ห้ำมมิให้อุทธรณ์หรือฎีกำในปัญหำข้อกฎหมำยท่มิได้ยกข้นมำว่ำกันต้งแต่ศำลทหำร
                                                                                    ั
                                                                           ึ
                                                                    ี
            ช้นต้น เว้นแต่จะเป็นข้อกฎหมำยท่เก่ยวกับควำมสงบเรียบร้อยหรือเก่ยวกับกำรไม่ปฏิบัติตำมบทบัญญัต ิ
                                        ี
              ั
                                          ี
                                                                    ี
            อันว่ำด้วยกำรอุทธรณ์และฎีกำ
                  ๒๑  มำตรำ ๖๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกำศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๒๕ ลงวันที่ ๘ พฤศจิกำยน พุทธศักรำช ๒๕๒0
                  ๒๒  มำตรำ ๖๑ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติธรรมนูญศำลทหำร (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๕๘
                  ๒๓  มำตรำ ๖๑/๑ เพิ่มโดยพระรำชบัญญัติธรรมนูญศำลทหำร (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๕๘
   132   133   134   135   136   137   138   139   140   141   142