Page 22 - Top Executive Sharing
P. 22
20
2.2 ต่อมาได้มาดํารงตําแหน่งเป็นสารวัตรสอบสวน ณ สถานีตํารวจนครบาลบางเขน จึงได้กลับมา
ทําหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวนอีกครั้ง โดยปฏิบัติงานในหน้าที่พนักงานสอบสวนเรื่อยมา จนดํารงตําแหน่ง
เป็นรองผู้กํากับฝุายสืบสวนสอบสวน ในระหว่างนั้นได้รับโอกาสสําคัญ คือ ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วม
ชุดปฏิบัติการซึ่งทางกองบัญชาการตํารวจนครบาล ได้ทําการตั้งชุดขึ้นมาสืบสวนสอบสวนจับกุมผู้ต้องขัง
ที่ทําการหลบหนีในคดีที่ผู้ต้องหาชาวฮ่องกง ในนามแก๊ง 4 Kings ที่ก่อเหตุชิงตัวประกันผู้ต้องขังหรือนักโทษ
จากศาลอาญา และหนีไปกบดานอยู่ที่หมู่บ้านสหกรณ์การบินไทย อําเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
โดยในการปฏิบัติการได้มีการวางแผนแบ่งชุดปฏิบัติการออกเป็นหลายชุด โดยท่านได้รับมอบหมายให้เป็นชุดบุก
เข้าไปในตัวบ้านชุดแรก ซึ่งในการปฏิบัติการจริงทางผู้ต้องหาได้ทําการยิงต่อสู้ ทําให้เกิดการยิงต่อสู้กันระหว่าง
ตํารวจและผู้ต้องหา เมื่อสิ้นสุดการต่อสู้และเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าผู้ต้องหาถูกวิสามัญฆาตกรรม
ไปจํานวน 3 ศพ ทั้งนี้ ได้พบระเบิดซึ่งคาดว่าผู้ต้องหามุ่งหวังใช้ในการต่อสู้/หลบหนี อยู่สภาพพร้อมใช้อยู่ในที่เกิดเหตุ
แต่เจ้าหน้าที่ตํารวจสามารถระงับเหตุได้ก่อน จึงไม่เกิดเหตุอุกฉกรรจ์ขึ้น
2.3 ต่อมาได้มาดํารงตําแหน่งเป็นรองผู้กํากับการสืบสวนสอบสวนที่สถานีตํารวจภูธรปากเกร็ด
จังหวัดนนทบุรี ซึ่งได้เข้ามาทํางานด้านสอบสวนอย่างเต็มที่ เนื่องจากโรงพักแห่งนี้เป็นโรงพักที่มีคดีความสูง
และมีคดีค้างสูงมากเช่นกัน เฉลี่ยในแต่ละปีจะมีคดีความประมาณ 3,000 คดี แต่ขณะเดียวกันมีพนักงาน
สอบสวนเพียง 10 คน ดังนั้น ภารกิจหลักที่ต้องดําเนินการหลักในฐานะผู้บังคับบัญชาซึ่งควบคุมด้านสอบสวน
โดยตรง คือการหาทางที่จะลดภาระงานและลดความเครียดให้แก่พนักงานสอบสวนผู้ใต้บังคับบัญชา
หาแนวทางในการบริหารจัดการให้พนักงานสอบสวนเหล่านั้นได้มีเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ และดําเนินการ
พัฒนาการบริหารงาน รวมทั้งชี้แนะให้คําปรึกษา และทําการศึกษาปัญหาเรื่อยๆจนสามารถแก้ไขได้ดียิ่งขึ้น
3. หลักในการครองตน ครองคน ครองงาน
3.1 การครองตน
3.1.1 ทุกคนเกิดมามีฐานะที่แตกต่างกัน มีความเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน แต่ทุกคนต่างมีความใฝุฝันที่จะ
มีฐานะที่มั่นคง มีทรัพย์สินมีรายได้ที่เพียงพอกับการดํารงชีวิตของตนเองและครอบครัว แต่ในขณะเดียวกัน
รายได้/เงินเดือนอาจจะไม่เพียงพอสนองกับความต้องการ จึงอยากแนะนําให้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง โดยใน
เวอร์ชั่นภาษาไทยใช้ชื่อว่า “พ่อรวยสอนลูก” ส่วนเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า “Rich Dad, Poor Dad”
แต่งโดย Robert Kiyosaki ในหนังสือดังกล่าวให้แง่คิดในการใช้เงินและวางแผนการเงิน และหากไม่ชอบอ่าน
ก็สามารถหาฟังจาก YouTube ได้เช่นกัน โดยหนังสือเล่มนี้มีส่วนช่วยให้ชีวิตของท่านเปลี่ยนไป จากหลักคิด
ความเป็นมนุษย์เงินเดือน ที่คิดขยันทํางานหาเลี้ยงชีพ แล้วเอารายได้มาจับจ่ายซื้อเครื่องอุปโภค – บริโภค
และสิ่งอํานวยความสะดวกต่างๆ โดยมีหลักคิดแค่ว่าอยากได้เงินมากเท่าไรก็ทํางานมากเท่านั้น หรือที่เรียกว่า
Rat Race ที่มีลักษณะเหมือนหนูถีบจักรที่ทํางานไปเอาเงินมาจับจ่ายใช้สอยแล้วเป็นหนี้ และต้องทํางานใช้หนี้
เป็นวัฏจักร
ในหนังสือดังกล่าว ได้เสนอแนวคิดในการบริหารเงินอีกแบบหนึ่ง กล่าวคือ หากเราเปลี่ยนมุมคิด
โดยแทนที่จะนําเงินที่กู้ยืมมาไปซื้อรถหรือบ้าน แล้วเราก็ต้องผ่อนชําระเงินหนี้ดังกล่าวไปเรื่อย ๆ จะพบว่า
ทรัพย์สินเหล่านั้นจะมีค่าเสื่อมสภาพเกิดขึ้น ทําให้มูลค่าของทรัพย์สินลดลงตามไปเรื่อยๆ แต่หากนําเงินไปลงทุน
ให้เกิดรายได้ที่เพิ่มมูลค่าขึ้นแทน เช่น นําไปลงทุนซื้อของมาขาย หรือนําไปลงทุนซื้อคอนโดมิเนียมให้เช่า
จะช่วยให้เรามีรายได้จํานวนหนึ่งมาผ่อนชําระหนี้ที่กู้มา พร้อมทั้งได้ถือกรรมสิทธิ์ในการครอบครองทรัพย์สิน
เหล่านั้น และเมื่อผ่อนชําระจนครบตามจํานวนทรัพย์สินนั้นจะตกของเรา ไม่ใช่หนี้สินอีกต่อไป
หรือหากนําเงินดังกล่าวไปลงทุนได้แล้วมีรายได้เกินกว่าเงินที่ผ่อน ก็ถือเป็นกําไรและรายได้ที่เพิ่มขึ้น