Page 24 - Top Executive Sharing
P. 24
22
เนื้อหาการเสวนาถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ในการท างาน
จากผู้บริหารระดับสูง ครั้งที่ 2
โดย พันต ารวจเอก ประเวศน์ มูลประมุข ที่ปรึกษาส านักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม
วันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2562
ณ ห้องรับรองกระทรวงยุติธรรม ชั้น 2
อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ
ค าถาม : ท่านช่วยกรุณาเล่าประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน/ภารกิจที่ส าคัญตั้งแต่อดีต – ปัจจุบัน
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาร่วมรับฟังในวันนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการให้เกียรติผมเป็นอย่างยิ่ง
เนื่องจากหลายท่านต่างก็มีภารกิจหลายๆอย่าง แต่ก็ยังสละเวลามาร่วมรับฟัง และขอขอบคุณผู้จัดที่ได้เล็งเห็น
ความสําคัญ ซึ่งเนื้อหาที่จะถ่ายทอดในวันนี้ส่วนตัวไม่อยากให้เรียกว่าการถ่ายทอดความรู้ แต่อยากเรียกว่า
เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์มากกว่า เนื่องจากเห็นว่า คําว่าความรู้มันอยู่ในหนังสือหรือตํารา ซึ่งจริงๆแล้วใน
การทํางานของผมนั้น ทํางานอยู่บนพื้นฐานของความรู้ระดับหนึ่งแต่ส่วนใหญ่จะใช้ประสบการณ์ เพราะว่างาน
ของผมที่ทํามาตลอดชีวิตตั้งแต่จบจากโรงเรียนนายร้อยตํารวจ รุ่นที่ 34 ในปี พ.ศ. 2524 เป็นต้นมา
ก็จะใช้ความรู้ซึ่งเป็นหลักกฎหมายแค่ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และประมวลกฎหมายอาญา
เป็นหลัก เนื่องจากตํารวจนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับในเรื่องของคดีแพ่ง ก็จะเน้นเรื่องคดีอาญา ซึ่งจะใช้หลักกฎหมาย
ตามประมวลกฎหมายอาญาเป็นหลัก นอกนั้นก็จะเป็นเรื่องของพระราชบัญญัติที่มีโทษทางอาญาเป็นบางส่วน
แต่จริงๆแล้วความเป็นตัวตนของผมจริงๆ ผมจะทํางานด้านการสืบสวน (นักสืบ) ตั้งแต่เมื่อครั้งยังดํารงตําแหน่ง
ร้อยตํารวจตรี ซึ่งเป็นความใฝุฝันส่วนตัวของผม และก็เชื่อว่าเป็นความใฝุฝันของเจ้าหน้าที่ตํารวจ 90 – 100 %
ล้วนอยากจะเป็นตํารวจนอกเครื่องแบบ ซึ่งมีแรงบันดาลใจให้ชอบการสืบสวนมาจากการดูภาพยนตร์เป็นหลัก
ซึ่งในส่วนของการสอบสวน หรือทําสํานวนการสอบสวนก็จะมีการกล่าวถึงเป็นเพียงส่วนน้อย ตั้งแต่อดีต – ปัจจุบัน
จะเห็นได้ว่ามีการกล่าวถึงการฆ่าตัวตายของเจ้าหน้าที่ตํารวจโดยเฉพาะในกลุ่มของเจ้าพนักงานสอบสวนอยู่บ่อยครั้ง
ซึ่งมีเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกับผม ที่เครียดเรื่องการสอบสวนจนฆ่าตัวตายไป 1 คน ตั้งแต่ยังดํารงตําแหน่ง
ร้อยตํารวจโท ซึ่งในส่วนตัวของผมเองก็ไม่ชอบงานสอบสวนเช่นกัน
ข้อเท็จจริงของชีวิตการรับราชการของผมเองก็ดี หรือของท่านก็ดี ส่วนใหญ่จะเลือกเองไม่ได้ ถึงเวลา
ถูกแต่งตั้งไปดํารงตําแหน่งอะไรก็แล้วแต่ก็ต้องทํา และต้องทําให้ดี นี่คือหลักการของผม ไม่ว่าจะอยู่
ณ ตําแหน่งใดเวลาใดก็ต้องศึกษาหน้าที่ของตัวเองให้ชัดเจนถ่องแท้เสียก่อน ว่าเรามีหน้าที่อะไร อํานาจแค่ไหน
แล้วเราจึงจะสามารถปฏิบัติงานอยู่ในตําแหน่งนั้นได้ดีที่สุด ผมเริ่มต้นจากการเป็นรองสารวัตรสอบสวนที่สถานี
ตํารวจนครบาลบางซื่อ ตอนนั้นจบจาก รร.นายร้อยตํารวจ เขาก็ใช้เกณฑ์การคัดเลือกจากคะแนนสอบปีสุดท้าย
โดยวัดเป็น % เขาก็จะนํามาจัดลําดับโดยไล่เรียงจากผู้ที่มีคะแนนในลําดับสูงสุดเป็นลําดับที่ 1 จนถึงลําดับ
สุดท้าย แล้วให้ผู้ที่มีคะแนนเป็นลําดับที่ 1 จะเป็นผู้มีสิทธิเลือกก่อนตามลําดับ ว่าจะไปทํางานโรงพักอะไร
รุ่นผมมีคนจบมาทั้งหมด 198 คน ซึ่งผมอยู่ในลําดับที่ 20 ตอนนั้นโอกาสที่จะเลือกโรงพักเกรด A อย่างเช่น
พญาไท, ทองหล่อ, ลุมพินี แต่ผมเลือกที่จะไปอยู่ที่บางซื่อเพราะว่า มีแต่คนบอกว่าที่บางซื่องานเยอะ
และไม่ค่อยมีคนอยากไป เนื่องจากมีตําแหน่งแค่ 3 ตําแหน่ง ก็เลยเลือกที่จะไปบางซื่อ เนื่องจากต้องการเรียนรู้งาน
ศึกษางาน ก่อนที่เราจะโยกย้ายไปที่อื่น ก็ถือเป็นโอกาสดีที่ได้ไปอยู่ตรงนั้น เนื่องจากได้มีโอกาสร่วมงานกับ
ผู้บังคับบัญชาที่เก่งด้านงานสอบสวนของนครบาลคนหนึ่ง ซึ่งก็คือท่านพันตํารวจโทอาทิจ ชูตินันท์ ก็ได้รับ
การถ่ายทอด สั่งสอน ซึ่งครั้งเมื่อผมจบมาใหม่ๆก็เริ่มต้นในตําแหน่งพนักงานสอบสวน โดยเข้าเวรครั้งแรก
ก็เป็นเวรกะดึกเริ่มเวลา 24.00 - 06.00 น. เป็นครั้งแรกที่เข้าเวรคนเดียวโดยไม่มีพี่เลี้ยง แล้วบังเอิญมีเหตุ
เจ้าหน้าที่ตํารวจเมาสุราแล้วเอาปืนไปขู่นักข่าวเดลินิวส์ จนเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตจนเกือบจะยิงกัน