Page 107 - สุขศึกษาทช21002.indd
P. 107
98
ซึ่งทักษะที่จําเปนในการสื่อสาร ไดแก การรูจักแสดงความคิดเห็น หรือความตองการใหถูก
กาลเทศะ และการรูจักแสดงความชื่นชมผูอื่น การรูจักขอรอง การเจรจาตอรองในสถานการณ
คับขันจําเปน การตักเตือนดวยความจริงใจ และใชวาจาสุภาพ การรูจักปฏิเสธเมื่อถูกชักชวนให
ปฏิบัติในสิ่งที่ผิดขนบธรรมเนียมประเพณี หรือผิดกฎหมาย เปนตน
การสื่อสารดวยการปฏิเสธ
หลาย ๆ คนไมกลาปฏิเสธคําชักชวนของเพื่อนหรือคนรัก เมื่อไปทําในสิ่งที่
ตนเองไมเห็นดวย เชน การมีเพศสัมพันธที่ไมปลอดภัย การเสพยาเสพติด ฯลฯ อันที่จริงการ
ปฏิเสธเปนสิทธิของทุกคน การปฏิเสธคําชักชวนของเพื่อน หรือคนรักเมื่อทําในสิ่งที่ตนเองไม
เห็นดวยอยางเหมาะสม และไดผลจะชวยปองกันการมีพฤติกรรมเสี่ยงได คนสวนใหญไมกลา
ปฏิเสธคําชักชวนของเพื่อน หรือคนรัก เพราะกลัววาเพื่อน หรือคนรักจะโกรธ แตถาสามารถ
ปฏิเสธไดถูกตองตามขั้นตอนจะไมทําใหเสียเพื่อน
การปฏิเสธที่ดี
จะตองปฏิเสธอยางจริงจัง ทั้งทาทาง คําพูด และน้ําเสียง เพื่อแสดงความตั้งใจ
อยางชัดเจนที่จะขอปฏิเสธ
2.2. ทักษะการสรางสัมพันธภาพระหวางบุคคล
คงไดยินคําพูดนี้บอย ๆ วา “คนเราอยูคนเดียวในโลกไมได” เราตองพึ่งพา
อาศัยกัน ซึ่งจะตองมีสัมพันธภาพที่ดีตอกัน การที่จะสรางสัมพันธภาพใหเกิดขึ้นระหวางกันนั้น
เปนเรื่องไมยาก แรกเริ่มคือ
1. มีการติดตอพบปะกัน
เราจะตองมีการติดตอพบปะพูดคุยกับคนที่ตองการมีสัมพันธภาพกับเขา
ใหเวลากับเขา ทํางานรวมกัน ทํากิจกรรมรวมกัน เลนกีฬาดวยกัน และในที่สุดเราก็มีโอกาส
สรางมิตรภาพที่ดีตอกัน
2. มีความสนใจและประสบการณรวมกัน
ประสบการณเปนสิ่งที่นําคนสองคนใหมารวมมือกัน การชวยเหลือกันใน
ระหวางการเลาเรียน หรือการทํางานดวยกัน มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน การรวม
ประสบการณและแลกเปลี่ยนประสบการณระหวางกัน เปนการสรางมิตรภาพที่ดีใหเกิดขึ้น
สุขศึกษา พลศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น : ทช21002 107
ส�ำนักงำน กศน.จังหวัดกำฬสินธุ์

