Page 249 - คำวินิจฉัยศาลปกครองด้านพัสดุ
P. 249
๒๓๕
มาฟ้ องต่อศาลได้ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่พ้นก าหนดระยะเวลาพิจารณาอุทธรณ์
ดังกล่าว
้
: ค าสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ ๓๖๗/๒๕๕๒ กรณีฟองว่า ส านักเลขาธิการ
้
คณะรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟองคดีที่ ๑) มีหนังสือแจ้งยกเลิกกระบวนการพิจารณาค าเสนอในการ
ประกวดราคาตามประกาศประกวดราคาซื้อระบบสารสนเทศการประชุมคณะรัฐมนตรี
แบบอิเล็กทรอนิกส์ (CABNET) โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ศาลมีค าพิพากษาหรือค าสั่งให้
เพิกถอนค าสั่งยกเลิกการประกวดราคาดังกล่าว ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า เมื่อข้อ ๑๐ (๕)
ของระเบียบส านักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙
ก าหนดให้กรณีผู้มีสิทธิเสนอราคาที่เข้าสู่กระบวนการเสนอราคาแล้วไม่เห็นด้วยกับผลการพิจารณา
ของหัวหน้าหน่วยงานที่จะจัดหาพัสดุหรือเห็นว่ามีเหตุอื่นใดอันควรร้องเรียนเพื่อความเป็นธรรม
ให้อุทธรณ์หรือร้องเรียนต่อคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
(กวพ.อ.) ภายในสามวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง ทั้งนี้ ให้ กวพ.อ. พิจารณาอุทธรณ์หรือ
้
ค าร้องเรียนให้เสร็จภายในสามสิบวัน เมื่อกรณีนี้ปรากฏว่าผู้ถูกฟองคดีที่ ๑ไม่ได้แจ้งสิทธิ
้
การอุทธรณ์ในหนังสือลงวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๐ ที่แจ้งยกเลิกการประกวดราคาให้ผู้ฟองคดี
้
ทราบ ระยะเวลาในการอุทธรณ์จึงขยายเป็นหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้รับแจ้งค าสั่ง เมื่อผู้ฟองคดี
ได้ยื่นอุทธรณ์ค าสั่งดังกล่าวในวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๐ จึงเป็นการยื่นอุทธรณ์ภายใน
ก าหนดเวลาที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้ว และ กวพ.อ. ต้องพิจารณาอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายในวันที่
้
๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ การที่ผู้ฟองคดีไม่ได้รับแจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์จาก กวพ.อ.
้
้
ภายในก าหนดดังกล่าว ผู้ฟองคดีจึงมีสิทธิน าคดีมาฟองต่อศาลได้ภายในเก้าสิบวัน
้
้
นับแต่วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ เมื่อผู้ฟองคดีน าคดีนี้มาฟองต่อศาลในวันที่ ๒๑ ตุลาคม
้
้
๒๕๕๑ จึงเป็นการยื่นฟองคดีที่พ้นก าหนดระยะเวลาการฟองคดีแล้ว
๕) ขั้นตอนการด าเนินการอื่นๆ
(๑) การฟ้ องเพิกถอนค าสั่งให้เป็นผู้ทิ้งงาน
การฟ้ องขอให้เพิกถอนค าสั่งให้เป็นผู้ทิ้งงาน ถือว่าวันที่พนักงาน
ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานแทนผู้ฟ้ องคดี ณ ส านักงานอันเป็นภูมิล าเนาของผู้ฟ้ องคดีได้รับ
หนังสือแจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ค าสั่งดังกล่าว เป็นวันที่ผู้ฟ้ องคดีรู้หรือควรรู้ถึงเหตุ
แห่งการฟ้ องคดี จึงต้องยื่นฟ้ องคดีภายใน ๙๐ วัน นับแต่วันดังกล่าวตามมาตรา ๔๙
แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองฯ