Page 37 - สุขอนามัยฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
P. 37
3. ปล่อยลูกกุ้งอย่างหนาแน่น ที่ผ่านมาเกษตรกรจะมี
การปล่อยลูกกุ้งอย่างหนาแน่นประมาณ 100,000 ตัว/ไร่ เผื่อจะมี
ลูกกุ้งบางส่วนตายและส่วนที่เหลือจะได้มีปริมาณลูกกุ้งพอเพียง ใน
ระหว่างการเลี้ยงจะมีการทยอยจับกุ้งที่มีขนาดโตบางส่วนออกมาเรื่อยๆ
4. ผลิตอาหารเอง คุณภาพไม่แน่นอน เนื่องจาก
เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งส่วนใหญ่จะทำอาหารกุ้งใช้เอง โดยซื้อวัตถุดิบ
มาผสม หลังจากการผลิตอาหารเสร็จแล้วจะตากอาหารให้แห้งตาม
ลานบ้านหรือบนถนน ทำให้คุณภาพของอาหารไม่ดีเท่าที่ควร โดย
คู่มือวิชาการ เรื่อง แนวทางการประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ประเภท การเลี้ยงสัตว์น้ำ
เฉพาะวัตถุดิบที่ซื้อมาผสมบางครั้งสดแต่บางครั้งไม่สด ทำให้คุณภาพ
ไม่แน่นอนและอาจไม่ได้มาตรฐาน อีกทั้งการนำอาหารมาตาก
ข้างถนนเพื่อให้อาหารแห้งในบางฤดูกาลมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง
โอกาสที่อาหารไม่แห้งสนิท มีความชื้นค่อนข้างจะสูง ทำให้เกิดเชื้อรา
บนอาหารขึ้นในที่สุด อาจจะเป็นอันตรายต่อกุ้งได้ การผลิตอาหาร
ใช้เองเป็นการลดต้นทุนของเกษตรกร แม้ว่าจะเป็นการลดต้นทุนก็จริง
แต่คุณภาพที่เกษตรกรทำเองไม่มีคุณภาพแน่นอน บางครั้งวัตถุดิบ
ไม่สดหรือคุณภาพไม่ดี กุ้งอาจจะไม่กินหรือกินน้อยลง ดังนั้นอาหาร
ที่ให้กับกุ้งในบ่อก็จะเหลือมาก มีผลทำให้คุณภาพน้ำเสียได้ง่าย
และในที่สุดจะมีผลต่อสภาพพื้นบ่อ ส่งผลทำให้กุ้งมีโอกาสเป็นโรค
สูงขึ้นด้วย
5. สายพันธุ์ดั้งเดิม กุ้งก้ามกรามที่เกษตรกรเลี้ยงอยู่ใน
ขณะนี้ส่วนมากเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมเลี้ยงกันมาเป็นเวลาช้านาน โดย
ไม่มีการปรับปรุงคุณภาพพ่อแม่พันธุ์ ส่วนมากจะใช้กุ้งในบ่อเลี้ยงบาง
ส่วนที่มีลักษณะที่ดี เช่น มีขนาดโตมาทำเป็นพ่อแม่พันธุ์ หลังจากการ
เลี้ยงมาหลายปีจะเห็นได้ว่าขนาดของกุ้งก้ามกรามเล็กลง ซึ่งน่าจะมี
สาเหตุมาจากผสมพันธุ์ในสายเลือดเดียวกัน ทำให้เกิดปัญหาเลือดชิด
30