Page 505 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 505

จะต้องเดินทางต่อจากพรมแดนไปอีก ๖๐ ลี้ หรือ ๗๐ ลี้ การนับวันนี้ถือเอาวันทางการเดินเรือ
                     โดยทวนสายน้ำขึ้นไปตามเกณฑ์ เขาเล่าให้ฟังว่า เมื่อราว ๆ สัก ๓๐ ปีล่วงมานี้ สมเด็จพระ
                     เจ้าอยู่หัวได้ทรงกรีธาทัพเสด็จขึ้นไปตีเมืองนั้นแล้วก็ทรงทิ้งร้างไว้โดยทรงกวาดต้อนเอาประชาชน
                     พลเมืองมาเสียหมดสิ้น ต่อจากนั้นว่า พระเจ้ากรุงอังวะซึ่งเมืองพะโคเป็นเมืองขึ้นอยู่ทุกวันนี้เสด็จ

                     มาส้องสุมไพร่บ้านพลเมืองขึ้นใหม่ แต่ชาวสยามที่ขึ้นไปในกองทัพเมื่อครั้งนั้น ไม่มีใครได้เห็นหรือ
                     รู้ว่ามีทะเลสาบอันลือนามซึ่งนักภูมิศาสตร์ของเราระบุว่าเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำ และเมือง
                                                                                        ี
                                                                                                  ี่
                     เชียงใหม่ได้ถือเอาชื่อทะเลสาบนั้นเป็นชื่อเมืองนั้นเลย อันทำให้ข้าพเจ้าคิดว่าลางททะเลสาบทว่า
                     นั้นจะอยู่ไกลกว่าที่นักภูมิศาสตร์ของเราคาดไว้ก็เป็นได้ หรืออีกทีก็ไม่น่าจะมีทะเลสาบที่ว่านั้นเอา
                     เสียเลย
                                                  (จดหมายเหตุ ลาลแบร์ ราชอาณาจักรสยาม, ๒๕๕๗, น. ๒๘)
                                                                 ู

                       ๑.๙ มหาราชวงษ์พงศาวดารพม่า นายต่อแปล

                       ได้กล่าวถึงตอนที่พระเจ้าบุเรงนองได้ยกทัพไปบุกกรุงศรีอยุธยาในศึกช้างเผือกเมื่อจุลศักราช ๙๒๕
                                                                                                    ้
               หลังจากเสร็จศึกชางกับกรุงศรีอยุธยาพระเจาบุเรงนองได้กรีธาทัพไปตเมืองเชียงใหม่เพราะเนื่องจากเจาเมือง
                                                                         ี
                              ้
                                                    ้
               เชียงใหม่แข็งเมืองพระเจ้าบุเรงนองทรงจัดให้สีหะปะเต๊ะทัพ ๑ มางจอถิงทัพ ๑ สะโตมางจอทัพซึ่งเป็นพระราช
               บุตรเขยทัพ ๑ รวมทั้งเจ้าประเทศราชเงี้ยว ๑๐ ทัพๆ นี้ช้างรบ ๕๐๐, ม้า ๖๐๐๐, พลทหารราบ ๑๒๐๐๐๐,
                                                                                ี
               แล้วทรงมอบอาญาสิทธิให้กับสะโตมางจอพระราชบุตรเขยเป็นแม่ทัพคุมยกไปตเมืองเชียงใหม่ แต่ให้ยกไปทาง
               เมืองไนย (นาย) ในการศึกครั้งนี้ได้มีทหารจากฝั่งสยามเข้าร่วมรบด้วยดังปรากฏในเนื้อความดังนี้


                            “แล้วทรงจัดให้บุริงสิงจีนายทหารม้าทัพ ๑ ตุริงเทวะนายทหารม้าทัพ ๑
                     เทวะสูรีนายทหารม้าทัพ ๑ สูระกรรมานายทหารม้าทัพ ๑ ศโปะศิรินายทหารม้าทัพ ๑
                     ทัพช้างนั้นออกยาธรรมราชาซึ่งเป็นพระราชบุตรเขยพระเจ้าอยุทธยาทัพ ๑ ไชยสังจรันทัพ ๑
                     ออกยาสวรรคโลกย์ทัพ ๑ แล็ดต่อไชยทัพ ๑ ออกยาศุโขไทยทัพ ๑ ศิริไชยนรทาทัพ ๑

                     ออกยาพิชัยทัพ ๑ จตุกามณีทัพ ๑ มางแรสังขยาทัพ ๑ มางแรจอถิงซึ่งเป็นพระภาคินัยทัพ ๑
                     รวมทั้งทัพช้างทัพม้า ๑๕ ทัพ ๆนี้ช้างรบ ๕๐๐, ม้า ๖๐๐๐, พลทหารราบ ๑๒๐๐๐๐,
                     ยกไปตีเชียงใหม่โดยทางอินทคีรี”
                                                            (มหาราชวงษ์ พงษาวดารพม่า, ๒๕๖๒, น. ๑๖๑)


                       ๑.๑๐ ADVENTURES OF MENDEZ PINTO แปลโดย สันต์ ท. โกมลบุตร
                       ได้กล่าวถึงสถานที่หนึ่งนั้นคือทะเลสาบเชียงใหม่ หลังจากที่พระไชยราชากษัตริย์แห่งกรุงอยุธยาไดยก
                                                                                                       ้
                                                                                              ้
               ทัพไปตีเมืองเชียงใหม่ และพระนางจิรประภา เจ้าเมืองเชียงใหม่ ถวายราชบรรณการยอมเป็นเจาประเทศของ
               สยาม แม่อยู่หัวเมืองเชียงใหม่ได้ตัดไมตรีกับอยุธยา พระเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงศรีอยุธยาจึงถอยทัพกลับพระนคร
               ดังปรากฎในเนื้อความดังนี้




                                       การศึกษาเปรียบเทียบสมมุติฐานเมืองซาก (ทราก) ฯ
                                                         หน้า ๑๙
   500   501   502   503   504   505   506   507   508   509   510