Page 501 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 501

ี่
                                       ่
               โดยระยะทางเป็นเมืองหน้าดานของเมืองสระหลวงหรือเมืองทุ่งยั้ง ในขณะที่เมืองทอำเภอวังชนเป็นเมืองหน้า
                                                                                            ิ้
               ด่านของเมืองศรีสัชนาลัย ในรัชกาลสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถและพระเจ้าติโลกราช เส้นทางคมนาคมตามลำ
                                 ิ
               น้ำยมเป็นเส้นทางที่ตดต่อกันระหว่างศรีสัชนาลัยกับลำปาง แพร่ และพะเยา ในขณะที่เมืองฝางเป็นเมืองหน้า
               ด่านสำหรับการติดต่อกันระหว่างเมืองสระหลวงกับเมืองฝางบนเส้นทางคมนาคมในลุ่มน้ำน่าน จึงมีการ
               กล่าวถึงเมืองน่าน เมืองพลัวหรือเมืองปัวที่เป็นบ้านเมืองของคนกาวหรือลาวกาว ที่มีกษัตริย์องค์สำคัญร่วม
               สมัยกับพระมหาธรรมราชาที่ ๑ คือ พญาผากอง ทางด้านฝั่งตะวันออกของลำน้ำน่าน ทั้งตั้งจากเมืองฝางและ
               เมืองสระหลวงลงไปจนถึงเมืองสองแควหรือพิษณุโลก ยังมีลำน้ำที่เป็นเส้นทางคมนาคมอีก ๒ เส้น คือลำน้ำ

               ตรอนที่ไหลมาจากแดนลาวทางอำเภอปากท่า กับลำน้ำแควน้อยที่ไหลจากต้นน้ำในเขตอำเภอด่านซ้าย จังหวัด
               เลย ทั้ง ๒ ลำน้ำนี้ เป็นเส้นทางที่สัมพันธ์กับบ้านเมืองลาวในลุ่มน้ำโขง ระหว่างเมืองหลวงพระบางกับเมือง
               เวียงจันทน์ ลำน้ำตรอนอยู่ทางเหนือของลำน้ำแควน้อย ที่มีเมืองตรอนอยู่ปากน้ำตรอนตอนสบกับลำน้ำน่าน
               นับเป็นเมืองหน้าด่านของเมืองสระหลวง ในขณะที่ลำน้ำแควน้อยมีเมืองสำคัญอยู่เมืองนครไทย เป็นเมืองท ี่
               สัมพันธ์กับคนที่มาจากเมืองหลวงพระบางและเมืองทางฝั่งแม่น้ำโขงเหนือเมืองเวียงจันทน์ ตามลำน้ำแควน้อย

               มาออกแม่น้ำน่านมีเมืองชาติตระการเป็นเมืองหน้าด่านสำหรับเส้นทางจากนครไทยและหลวงพระบางมายัง
                                                                                                   ู
                                                                                                 ี่
               เมืองสองแคว เส้นทางคมนาคมตามลำน้ำยมและลำน้ำน่าน รวมทั้งลำน้ำเล็ก ๆ ที่ไหลจากเขาและทสงมาลงส ู่
               ลำน้ำยมและน่านนั้น คือเส้นทางที่นำผู้คนที่เป็นชนชาติไทยจากลุ่มน้ำปิง วัง ยม และน่าน จากทางเหนือ
               ตะวันตก และตะวันออกเข้ามายังเมืองสุโขทัย ดังที่มีกล่าวถึงในศิลาจารึกหลกที่ ๑ ว่า “ทั้งมากาว ลาวแลไทย
                                                                              ั
               เมืองใต้หล้าฏ ไทยชาวอู ชาวของ มาออ-ก อีกข้อความหนึ่งว่า “ปราบเบื้องตะวันออ-ก รอดสรลวง สองแคว
               ลุมบาจาย สคา เท้าฝั่งข-อง เถิงเวียงจันทน์เวียงคำ เป็นที่แล้ว” และ “เบื้องตีนนอน รอดเมืองแพร่ เมืองม่าน
               เมืองน...เมืองพลัว พ้นฝั่งของ เมืองชวา เป็นที่แล้ว”

                       การยกข้อความดังกล่าวมาอ้างก็เพื่อชี้ให้เห็นว่า ในสมัยรัชกาลพ่อขุนรามคำแหงนั้น มีคนไทยหลายถิ่น
                                                                         ิ
               หลายเมืองทางเหนือ (ตีนนอน) และทางตะวันออกที่ไปยังลุ่มน้ำโขงเดนทางเข้ามาสุโขทย โดยผ่านมายังเมือง
                                                                                        ั
               สระหลวงกับสองแควบนลำน้ำน่าน ซึ่งกล่าวได้ว่ากลุ่มที่มาจากลุ่มน้ำโขง มีเมืองชวาหรือหลวงพระบาง
               ที่สมัพันธ์กับไทชาวอูและไทชาวของจากทั้งเมืองหลวงพระบางที่อยู่ทางเหนือกับเมืองเวียงจันทน์ เวียงคำ ผคน
                                                                                                       ู้
                                                   ิ
               เหล่านี้ผ่านมาทางเมืองนครไทยที่ข้าพเจ้าคดว่าเมืองราด มายังเมืองชาติตระการ ล่องตามลำน้ำแควน้อยมายัง
               เมืองสองแควทางหนึ่ง และอีกทางหนึ่งจากเมืองชาติตระการขึ้นไปทางเหนือผ่านเมืองตรอน ปากน้ำตรอนข้าม
               ลำน้ำน่านมายังบริเวณเมืองพิชัย (ซึ่งเป็นเมืองที่เกิดขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ) และเดินทางผาน
                                                                                                       ่
               ทุ่งขึ้นไปยังเมืองสระหลวง ที่ต่อมาคือทุ่งยั้ง ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่าเป็นเมืองบางยางของพ่อขุนบางกลางหาว เมื่อ

               มาถึงจุดตรงนี้จะเห็นเป็นภาพพจน์ได้ว่า เนื้อความในศิลาจารึกหลักที่ ๒ ที่กล่าวถึงพ่อขุนผาเมืองว่าเดินทาง
               จากเมืองนครไทย คือ เมืองราด ในลุ่มน้ำแควน้อย ผ่านเมืองชาติตระการมายังเมืองตรอนในเขตเมืองตรอน
               ข้ามลำน้ำน่านไปยังเมืองพิชัย แล้วเดินทางต่อไปยังเมืองบางยาง ที่ต่อมาคือเมืองสระหลวงของพ่อขุนบางกลาง

               หาว และสมคบกับพ่อขุนผาเมืองยกกองทัพเข้ายึดเมืองศรีสัชนาลัย แล้วยกกองทัพผ่านเมืองบางขลังหรือ
               บางฉลังลงมาตีเมืองสุโขทัย
                                                             (บทความ ทุ่งยั้งคือนครสระหลวง, ๒๕๖๒ น. ๓๗-๔๙)




                                       การศึกษาเปรียบเทียบสมมุติฐานเมืองซาก (ทราก) ฯ
                                                         หน้า ๑๕
   496   497   498   499   500   501   502   503   504   505   506