Page 502 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 502

๑.๖ เอกสารวรรณกรรมที่พบในท้องถิ่น ในบันทึกเอกสารตำนานฉบับเก๊าพระเจ้ายอดคำทิพย์
               วัดลับแลงหลวง

                                                                             ้
                              “ลุเถิง ยังขุนองค์คำพระญาไสลือไธย ผู้เป็นใหญ่บนด้าวเจาเวียงไธย ได้รับตราบอกใบ
                       ลุกมาแต่เจ้าต๋นยี่กวามแก้ววงเมือง พระเจ้าเวียงเชียงราย ขอกุมพลเสิกขึ้นเหนือลุเถิงยังเขต
                       แคว้นล้านนา ทัสสะลักขะเขตตาบุรีสะหรีคณทีเชียงใหม่ จักขอกินเวียงล่องลงใต้แลกวาดเท
                       ครัวชาวเชียงราย ลงเสี้ยงเวียง เหตุปีข้าวนั้น มีกาละวิบากตกขึด ช้างแม่งาออนเกิดลกตายสอง
                                                                                            ู
                                                                                             ้
                       งวงร่วมตัว และชาวเวียงก็ชิงกินซาก ผิดเภทต้องภัย เหตุบ่ตั้งในศลบ่กินในธัมม์พระเจา ผป่าผ ี
                                                                                                ี
                                                                            ี
                       ซากเข้าสิงเวียง น้ำปั๊ดม่อนดอยพัง ฝูงชาวไธยสระหนองหลวงจมตายเป็นบ้ามีมาก เจาพระญา
                                                                                            ้
                       เวียงไธย จึ่งเทครัวชาวเชียงรายใส่ไว้ในเวียงสระหนองหลวงนั้น แลยกเอาเจ้ายี่กุมกวามแก้ววง
                       เมืองตนพระญา นั่งเวียง เจ้าพระญาแก้ววงเมืองยี่กุมกวามจิ่งสั่งฝูงชาวเวียงทั้งหลาย แต่เวียง
                       ป้านคันน้ำหนองฝายแผ่บ้านและอารามกุมหนอง แลยกพิหารอารามทั้งหลายในโขงแคว้นเขต

                       เวียงสืบสันฐานดั่งหอยสังข์ไจยมงคล มาใส่ไว้ที่เวียงซากสระหนองหลวง หว่างห้วยทะรากแก้ว
                       แม่จุมปู แลยกเอาสระหนองหลวงเป๋นดั่งปากขุมขอนสังข์ ยกเอาพิหารใหญ่เป๋นแนวสมาเขต
                                                                                              ี
                       เวียง หื้อน้ำแม่ห้วยแก้วจุมปูไหลผ่าน แลน้ำแม่ห้วยทรายคำไหลล้อมหนวันออกมีวัดเจติยะ

                       พิหารอารามเป๋นแนวหนเหนือมีวัดช้างแล่นหัวข่วงสีมาราม แลริมตาฝั่งน้ำแม่ห้วยแก้วจมปู เขต
                       นาป่าส้มป่องป่าหมากหนามทูนเรียนมีนาป่าโป่งวัดเชตะวันพิหาร หนวันตกเบื้องเหนือมีวัดป่า
                       ไม้แดง ถัดล่องลงอว่ายวันตกมาแลเป๋นวัดเวฬุวันพิหารป่าไผ่ ถัดล่องลงมายังหนวันตก เป๋นวัด
                       ตาละนาลิเกระม่อนป่าป้าวป่าตาลจำบอนแลม่อนระสีดอยกั้ง และม่อนเกล๊าปูเจ้าดอยสูงเป็น

                       เขตบังยังวันตก ถัดวนล่องริไปหนวันตกเบื้องใต้ มีวัดพนมม่อนสมพิหารปงจำน้ำ และหนใตนั้น
                                                                                                 ้
                       มีวัดมหาวันพิหารข่วงน้ำล้อม แลสันดอยเกล๊าเจ้าปู่เป็นแนวตุ้มเวียง ถัดมาเป็นวัดบุปผาราม
                       ถัดวนขึ้นไปจบหนวันออกเบื้องใต้ มีหอไต้ แลก๋างเวียงมีพิหารสายดือเวียงเป็นไจยเวียงริมตาฝง ั่
                       หนองสระหลวงนั้นแล”

                                           (บันทึกตำนานฉบับเก๊าพระเจ้ายอดคำทิพย์ วัดลบแลงหลวง, น. ๑๐๑)
                                                                                  ั

                                                                                        ิ
                       ๑.๗ บทความทางวิชาการ “ตำนานติดส่วยห้อเมื่อล้านนารบชนะราชวงศ์หมง?” เขียนโดยนับเก้า
               เกียรติฉวีพรรณ ได้ระบุต้นเหตุที่พระญาไสลือไทยกพลศึกไปช่วยท้าวยี่กุมกามรบเชียงใหม่ ความว่า


                              เมื่อพิจารณาเทียบจาก พงศาวดารราชวงศ์หมิง - หมิงสือ (明史) และบันทึกความ
                                                                                    ี่
                     จริงแห่งราชวงศ์หมิง หมิงสือลู่ (明實錄) กลับกล่าวถึงสาเหตุของสงครามทต่างไปจากเอกสาร
                     ของล้านนา โดยกล่าวว่า วันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๑๙๔๗ ราชสำนักหมิง (大明) ได้รับรายงาน
                     ว่า ขุนนางฝ่ายในท่ราชสำนักหมิงส่งไปเชอหลี่ (車里 สิบสองปันนา) ระหว่างทางผ่านปาไป่ตา
                                     ี
                                                                                                   ้
                     เตี้ยน (八百大甸 ล้านนา) ถูก “เตาเจาซั่น” (刀招散 ท้าวเจ้าสาม คือพระญาสามฝั่งแกน)
                     ขัดขวาง



                                       การศึกษาเปรียบเทียบสมมุติฐานเมืองซาก (ทราก) ฯ
                                                         หน้า ๑๖
   497   498   499   500   501   502   503   504   505   506   507