Page 8 - งานทดลอง
P. 8
ั
ุ
ั
วารสารวจยและพฒนาดานสขภาพ
ิ
ํ
ั
ี
ั
ุ
สานกงานสาธารณสขจงหวดนครราชสมา
ั
ู
ู
่
ั
้
ุ
ิ
ํ
ี
ื
้
ภาวะนาเกนในผปวยโรคไตเรอรงระยะสดทาย 2. ความรเกยวกบการควบคมภาวะ
ั
ุ
้
ี
่
ํ
ื
ื
่
ทไดรบการฟอกเลอดดวยเครองไตเทยม นาเกินไมเพยงพอ ยงขาดความรูความเขาใจ
ี
ั
ี
ั
ี
่
่
ิ
ภาวะนาเกนเปนภาวะทรางกายมปรมาณ เกยวกบโรค อาการ ภาวะแทรกซอนทอาจเกดขน
ิ
ํ
ี
ึ
้
ั
ี
่
ิ
ี
้
ั
้
ึ
ั
ั
ิ
่
ั
ํ
่
ี
้
ิ
ิ
ั
ํ
้
ึ
นานอกเซลลเพมขนอยางรวดเรว จงทาใหเกดนาคง การรกษาการปฏิบตตวทเกยวกบโรค เชน
่
่
ี
็
ํ
ในสวนตาง ๆ ของรางกาย เปนผลจากการไดรบนา การรับประทานอาหาร การจํากดนาดืม การออก
่
ั
ํ
้
้
ํ
ั
ั
ิ
ั
้
หรอโซเดยมมากเกนปกต จนทาใหความสามารถ กาลงกาย เปนตน [19, 20] อกทงความความรู
ํ
ิ
ํ
ื
ี
ี
้
ํ
ิ
ื
ิ
ในการควบคุมสมดุลนาของไตและฮอรโมน ในการเลอกชนด รสชาต และปรมาณของอาหาร
ิ
ั
ั
ู
ํ
บกพรอง หรอเปนความตางของนาหนกตวผปวย และนํ้าดื่มตลอดจนการจัดการตนเองในการปฏิบัติ
้
ื
่
ั
้
ไตเรือรงทไดรบการรักษาโดยการฟอกเลือดดวย พฤตกรรมการรบประทานอาหารและนําได
ั
ั
้
ี
ิ
ั
ั
เครองไตเทยมโดยการประเมนนาหนกปจจบน ยงไมเพยงพอ
ํ
้
ั
ิ
ุ
่
ื
ี
ี
่
ี
ํ
ี
้
ั
ํ
ั
เปรยบเทยบกบนาหนกแหง และนํ้าหนักตัวมากกวา 3. การรับประทานยาไมสมาเสมอหรือ
ิ
่
ู
ั
ั
ี
่
1 กโลกรมตอวนรวมกบมอาการเหนือย หายใจ ไมถกตอง พบวา มการใชยาในขนาดทไมเหมาะสม
ี
ี
ั
ี
่
ลาบาก นอนราบไมได มอาการบวมมากขน [9, 3] และยาทมขอหามใชในผปวยโรคไตเรอรงเปน
ี
ี
ื
้
ั
ู
้
ํ
ึ
ํ
ุ
่
จานวนมาก กลมยาทีพบการใชไมเหมาะสมมาก
ื
ิ
ุ
้
ิ
ํ
สาเหตของภาวะนาเกนในผปวยโรคไตเรอรงระยะ คอ ยาลดความดนโลหตสง ยาลดระดบนาตาล
้
ู
ั
ั
ื
ั
ํ
้
ู
ื
่
ี
ี
่
ี
ั
ุ
สดทายทไดรบการฟอกเลอดดวยเครองไตเทยม ในเลือด และยาตานฮสตามีน [20, 21] บางราย
ื
่
้
ิ
ั
ู
1. พฤตกรรมการบริโภคอาหารและนํา รบประทานยาไมถกตองตามแพทยสง ไมสามารถ
ั
ั
ู
ั
ไมเหมาะสม โดยหลงจากการฟอกเลอดแลวผปวย บรหารจัดการยาดวยตนเองได ลมรบประทานยา
ิ
ื
ื
ั
้
ั
ั
ี
ั
ํ
ั
ํ
จะมนาหนกตวหลังการฟอกเลอดลดลงเทากบ ปรบขนาดยาเอง รบประทานยาผิด ทาให
ื
ิ
ื
่
้
ี
ํ
ึ
ั
ั
ั
นาหนกแหง ซงเปนนาหนกปกตทปราศจาก ไดรบประทานยาไมครบหรอไมถกตอง
ํ
ู
้
่
ํ
ํ
ิ
ิ
นาสวนเกนในรางกาย ผปวยจะดาเนนชวตตามปกต ตามแผนการรกษา [9]
้
ิ
ั
ี
ิ
ู
ู
ู
่
ึ
ั
ี
ื
่
่
ขณะอยูทบานนาน 48 – 72 ชวโมง จนกวาจะถง 4. การรบรและความเชอของผปวย
ั
่
ื
ั
ุ
ื
่
ํ
ั
้
้
ิ
ี
ิ
การฟอกเลอดครงตอไป มกจะบรโภคอาหาร เกยวกบการควบคมภาวะนาเกน ความเชอของ
ั
ิ
ิ
่
และดมนาเกนเกณฑทกาหนด ไมรวธการในการ บคคลมผลตอการปฏบตพฤตกรรมตามคาแนะนา ํ
้
ํ
ิ
ํ
ี
ี
่
ุ
ี
ิ
ู
ื
ิ
ํ
ั
้
ุ
่
ี
ุ
ั
ควบคมนา ความตระหนกยงไมเพยงพอ บางคน ดานสขภาพ แตละบคคลมความเชอในระดบท ี ่
ื
ํ
[17]
ั
ุ
ั
ี
ั
ั
ยงรบประทานอาหารรสชาตปกตหรออาหารรสจด ไมเทากน จากบรบทของพนท วฒนธรรมการกนอย ู
ั
ื
่
ี
้
ั
ั
ิ
ิ
ื
ิ
ิ
ี
ื
่
ี
ิ
่
ยงรบประทานตามความตองการของตนเอง บางราย ทมอาหารพนถนทตองมในอาหารทกมอ เชน
ี
ั
้
ื
ุ
้
ั
ี
่
ึ
่
ใหขอมลวาซออาหารทีวางขายทซอยหนาบาน ปลารา นาบด ปลาเคม เปนตน ซงเปนอาหาร
่
ี
่
ื
ู
็
้
ู
ู
ํ
้
สงตามสูตรทีไมเคม ไมใสผงชูรสแตบางครัง ทควรหลีกเลยง และยังมความเชือวาการมา
่
้
่
่
ี
ั
็
ี
่
่
ี
็
ู
ั
้
ื
กยงตองรบประทานเพอความอยรอด และละเลย ฟอกเลือดตามเวลา สามารถชวยในการขับนา
ํ
่
ั
้
้
ิ
ั
[18]
ํ
ึ
ิ
ั
ั
่
่
ี
ํ
ํ
ไมตดตามนาหนกตวทเพมขนระหวางวน ทาให และของเสียไดหมด ไมจาเปนตองมีการควบคุม
ู
ํ
ิ
่
ิ
้
ํ
้
เกดการสะสมของนาในรางกาย ชนดอาหารและนาดม สงผลใหผปวยมพฤตกรรม
ี
ื
ิ
8 ปท 6 ฉบบท 2 (กรกฎาคม – ธนวาคม 2563)
ี
ั
ั
่
่
ี