Page 142 - ทักษะการเรียนรู้ ม.ปลาย
P. 142

133


                        “การที่เรามีการจัดการความรู้ในตัวเอง จะพบว่าความรู้ในตัวเราที่คิดว่าเรามีเยอะแล้ว เป็นจริง ๆ

               แล้ว ยังน้อยมากเมื่อเทียบกับบุคคลอื่น และหากเรามีการแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้กับบุคคลอื่น จะพบว่า มี
               ความรู้บางอย่างเกิดขึ้นโดยที่เราคาดไม่ถึง และหากเราเห็นแนวทางมีความรู้ แล้วไม่น าไปปฏิบัติ ความรู้นั้น

               ก็จะไม่มีคุณค่าอะไรเลย หากน าความรู้นั้นไปแลกเปลี่ยน และน าไปสู่การปฏิบัติที่เป็นวงจรต่อเนื่อง ไม่รู้จบ

               จะเกิดความรู้เพิ่มขึ้นอย่างมาก หรือที่เรียกว่า “ยิ่งให้ ยิ่งได้รับ”


               หลักการของการจัดการความรู้


                        การจัดการความรู้ ไม่มีสูตรส าเร็จในวิธีการของการจัดการเพื่อให้บรรลุเป้ าหมายในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

               แต่ขึ้นอยู่กับปณิธานความมุ่งมั่นที่จะท างานของตนหรือกิจกรรมของกลุ่มตนให้ดีขึ้นกว่าเดิม แล้วใช้วิธีการ

               จัดการความรู้เป็นเครื่องมือหนึ่งในการพัฒนางานหรือสร้างนวัตกรรมในงาน มีหลักการ ส าคัญ 4 ประการ
               ดังนี้

                        1.  ให้คนหลากหลายทักษะ หลากหลายวิธีคิด ท างานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ การจัดการความรู้

               ที่มีพลังต้องท าโดยคนที่มีพื้นฐานแตกต่างกัน  มีความเชื่อหรือวิธีคิดแตกต่างกัน  (แต่มีจุดรวมพลังคือ มี

               เป้ าหมายอยู่ที่งานด้วยกัน) ถ้ากลุ่มที่ด าเนินการจัดการความรู้ประกอบด้วยคน ที่คิดเหมือน ๆ กัน การจัดการ
               ความรู้จะไม่มีพลังในการจัดการความรู้ ความแตกต่างหลากหลาย มีคุณค่ามากกว่าความเหมือน

                        2.  ร่วมกันพัฒนาวิธีการท างานในรูปแบบใหม่  ๆ  เพื่อบรรลุประสิทธิผลที่ก าหนดไว้

               ประสิทธิผลประกอบด้วยองค์ประกอบ 4 ประการ คือ

                            2.1  การตอบสนองความต้องการ ซึ่งอาจเป็นความต้องการของตนเอง ผู้รับบริการ
                                ความต้องการของสังคม หรือความต้องการที่ก าหนดโดยผู้น าองค์กร

                            2.2  นวัตกรรม ซึ่งอาจเป็นนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ หรือวิธีการใหม่ ๆ ก็ได้

                            2.3  ขีดความสามารถของบุคคล  และขององค์กร
                            2.4  ประสิทธิภาพในการท างาน

                        3.  ทดลองและการเรียนรู้ เนื่องจากกิจกรรมการจัดการความรู้เป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ จึงต้อง

               ทดลองท าเพียงน้อย ๆ ซึ่งถ้าล้มเหลวก็ก่อผลเสียหายไม่มากนัก ถ้าได้ผลไม่ดีก็ยกเลิกความคิดนั้น ถ้าได้ผลดี
               จึงขยายการทดลอง  คือ ปฏิบัติมากขึ้น  จนในที่สุดขยายเป็นวิธีท างานแบบใหม่  หรือที่เรียกว่า  ได้วิธีการ

               ปฏิบัติที่ส่งผลเป็นเลิศ (Best  Practice) ใหม่นั่นเอง

                        4.  น าเข้าความรู้จากภายนอกอย่างเหมาะสม  โดยต้องถือว่าความรู้จากภายนอกยังเป็นความรู้ที่

               “ดิบ” อยู่ ต้องเอามาท าให้ “สุก” ให้พร้อมใช้ตามสภาพของเรา โดยการเติมความรู้ที่มีตามสภาพของเราลงไป
               จึงจะเกิดความรู้ที่เหมาะสมกับที่เราต้องการใช้
   137   138   139   140   141   142   143   144   145   146   147