Page 10 - 96592bac17e59a8ee6705a569be30fa2
P. 10
- Explicit Knowledge (ความรู้แจ้งชัด)
คือ ความรู้ที่เป็นเหตุเป็นผล หรือ ความรู้เชิงทฤษฏีที่บันทึกไว้ในสื่อต่าง ๆ เช่น เอกสารต ารา
ื่
และคู่มือการปฏิบัติงาน เป็นความรู้ที่ง่ายต่อการอธิบายถ่ายทอด ซึ่งท าให้ผู้อนสามารถเข้าถึงความรู้นั้นได้ง่าย
้
จึงเปรียบได้กับภูเขาน ้าแข็งส่วนที่โผล่พนน ้าขึ้นมามองเห็นได้ชัดเจน มีปริมาณ 20% ของความรู้ทั้งหมดของ
คนเรา
- Tacit Knowledge (ความรู้ฝังลึก)
คือ ความรู้เชิงประสบการณ์ ที่ซ่อนอยู่ในตัวคน ซึ่งยากแก่การอธิบายถ่ายทอดให้เป็นลาย
ั
ลักษณ์อกษร จึงเปรียบได้กับภูเขาน ้าแข็ง ส่วนที่จมอยู่ใต้น ้าซึ่งมองไม่เห็นมีปริมาณ 80% ของความรู้ทั้งหมด
ของคนเรา Tacit Knowledge เป็นความรู้ที่ก่อให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขัน แต่ยากต่อการบริหาร
จัดการ ความรู้ฝังลึกเป็นประสบการณ์ที่ซ่อนอยู่ในตัวตน ได้แก ่
- ความสามารถพิเศษเฉพาะตัว (ที่ยากต่อการเลียนแบบ)
่
- พรสวรรค์ (เป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัวที่บุคคลอื่นไมสามารถเลียนแบบได้)
- เทคนิควิธีของแต่ละคน ซึ่งเป็นผลที่เกิดจากการปฏิบัติงานจนกลายเป็นทักษะความ
ช านาญหรือความเชี่ยวชาญ
- วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices) เป็นบทสรุปของเทคนิควิธีการด าเนินงานที่ดีที่สุด
ของแต่ละคนที่ค้นพบจากการท างาน
ิ
สัดส่วนของความรู้บนภูเขาน ้าแข็งเมื่อพจารณาถึงสัดส่วนของความรู้ทั้ง 2 ประเภท พบว่า
้
ั
ความรู้ในองค์กรที่เป็น Explicit และ Tacit มีอตราส่วน 20:80 คล้ายกับภูเขาน้ าแข็งที่มียอดภูเขาโผล่พนน้ า
ขึ้นมา เป็นส่วนน้อย (Explicit ประมาณ 20% ของทั้งหมด) เมื่อเทียบกับส่วนของภูเขาน้ าแข็งที่จมอยู่ใต้น้ า ซึ่ง
มีมาก ดังนั้น การจัดการความรู้จึงเน้นที่ความรู้ในตัวบุคคล โดยเฉพาะความรู้เชิงประสบการณ์ โดยการเปลี่ยน
สถานะ Tacit Knowledge ให้เป็น Explicit Knowledge หรือกลายเป็นความรู้ที่แจ้งชัด ที่ถ่ายทอดออกมา
ื่
ื่
ั
ั
เป็นลายลักษณ์อกษร เพอให้พนักงานคนอนๆ ได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ และน ามาใช้ประโยชน์ในการพฒนาการ
ท างาน ด้วยเทคนิควิธีการจัดการความรู้แบบต่างๆ เช่น การเล่าเรื่องความส าเร็จ (Storytelling) หรือ ชุมชน
นักปฏิบัติ (CoP: Community of Practice) เป็นต้น เพื่อให้การจัดการความรู้ (KM) ได้ผลดีอย่างเต็มที่
8 | ห น้ า