Page 22 - แผนการสอน 61-1
P. 22
7
่
ี
็
้
ู
์
ั
์
ุ
่
ึ
ตนเองในโลกยุคปจจบัน ซงวิทยาศาสตรจะประกอบด้วยส่วนทเปนองค์ความรทางวิทยาศาสตรและส่วนท ี ่
ี
ี
็
ี
่
์
ู
้
ื
ื
่
ึ
เปนวิธการหรอขั้นตอนในการได้มาซงความรทางวิทยาศาสตรหรอทเรยกว่ากระบวนการวิทยาศาสตร ์
้
้
ขันที่ 2 สารวจและคนหา
ุ
ี
ุ
ี
1. นักเรยนแบ่งกล่ม กล่มละ 5-6 คน โดยคละความสามารถทางการเรยน
ิ
2. ให้นักเรยนจับค่บัตรค า “อะไรทใช่ และไม่ใช่วิทยาศาสตร” โดยใช้การระดมความคด
ี
่
์
ู
ี
จากคดเดยวก่อนแล้วคดค่และร่วมกันคดทั้งกล่ม
ุ
ิ
่
ู
ิ
ี
ิ
ขันที่ 3 อธบายและลงขอสรุป
้
้
ิ
1. นักเรยนเขยนผลการท ากิจกรรมลงในกระดาษแผ่นใหญ่ เพือน าเสนอเพือน ๆ ในชั้นเรยน
ี
่
่
ี
ี
ี
ุ
ิ
2. นักเรยน 2 กล่ม อาสาน าเสนอผลการทดลองหน้าชั้นเรยน แล้วอภปรายร่วมกันทั้งชั้น
ี
ู
ุ
ุ
ี
่
จากนั้นนักเรยนแต่ละกล่มน าผลงานไปตดหน้าฝาผนังห้องเรยนเพือให้เพือนได้ดผลงานแต่ละกล่ม (Gallery
่
ิ
ี
walk)
ี
์
ิ
่
์
3. นักเรยนร่วมกันอภปรายเกียวกับความหมายของวิทยาศาสตรได้ว่า วิทยาศาสตรนอกจาก จะ
่
็
ิ
์
ิ
็
ุ
่
ึ
ู
็
เปนความรเกียวกับโลกธรรมชาต ซงอธบายได้จากหลักฐานความเปนเหตเปนผลทางวิทยาศาสตร สามารถ
้
ุ
ุ
ื
ี
่
ี
อธบายสาเหตทท าให้เกิดส่งนั้น ๆ หรอทราบสาเหตก็อาจท านายผลได้ วิทยาศาสตรยังเปนวิธการหาความร ู ้
็
ิ
์
ิ
ู
้
ของนักวิทยาศาสตร ให้ได้มาซงความรวิทยาศาสตร แต่ความรทไม่ได้ใช้กระบวนการหาความรทาง
์
์
ี
่
้
่
ู
ู
ึ
้
์
ิ
์
์
็
ื
ิ
ิ
วิทยาศาสตร ไม่สามารถอธบายได้ในเชงวิทยาศาสตรไม่ถอว่าเปนวิทยาศาสตร เช่น การมองว่าจ้งจก
ี
ื
่
็
ิ
ุ
็
ทักจะประสบส่งทไม่ด หรอตากระตกด้านขวาจะเปนลางไม่ด เปนต้น
ี
ี
่
ิ
ี
่
ี
4. นักเรยนถามค าถามทสงสัยเพิ่มเตม ครสังเกตการแสดงความคดเหนของนักเรยน เพือ
ี
ิ
ู
็
ตรวจสอบแนวความคดของนักเรยน
ิ
ี
ี
่
ุ
ิ
5. นักเรยนแต่ละคนเขยนแผนผังความคด (concept map) สรปแนวคดเกียวกับความหมายของ
ี
ิ
ึ
วิทยาศาสตรลงในสมดบันทก
ุ
์
้
ขันที่ 4 ขยายความรู ้
ี
1. หลังจากทนักเรยนทราบความหมายของวิทยาศาสตรแล้ว ครถามนักเรยนต่อไปว่า “ความรทาง
ี
์
ี
ู
้
ู
่
์
ี
่
วิทยาศาสตรมกีประเภท อะไรบ้าง”
ี่
ื
ู
่
้
ุ
ี
ึ
ู
ี
์
้
้
2. นักเรยนศกษาใบความรท 1 เรอง ความรทางวิทยาศาสตร พรอมให้นักเรยนแต่ละกล่ม
ึ
์
ยกตัวอย่างความรวิทยาศาสตร ได้แก่ ข้อเท็จจรง มโนมต หลักการ กฎและทฤษฎ นักเรยนบันทก
ี
ิ
ิ
ี
้
ู
ุ
ประเด็นส าคัญลงในสมดบันทก
ึ