Page 22 - รายงานวิจัยชั้นเรียนปี 2562 กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
P. 22

ื่
                                                                                                         ั
                                               ่
                                                                                   ู
                                 วาจาที่ไพเราะออนหวาน ย่อมเป็นคุณสมบัติส าคัญในการพด เพอยึดเหนี่ยวใจของผู้ฟง
                       ให้เกิดความนิยมรักใคร่และเชื่อถือ และแสดงออกถึงความคิดที่สะท้อนมาจากจิตใจ ท าให้เห็นถึง
                                   ู
                       คุณลักษณะผู้พด การอบรมขัดเกลาจิตใจของบุคคลนั้น ดังผู้มีมารยาทจะต้องระมัดระวังในการใช้
                       วาจา แบ่งออก ดังนี้
                                                           ู
                                                     ู
                                     2.1 มารยาทการพด การพดแบ่งเป็นการพดทางการหรือกึ่งทางการ อาจพดอยู่ใน
                                                                                                    ู
                                                                         ู
                                                                                       ั
                                                   ู
                                                                             ั
                       บุคคล 2 บุคคล หรือกลุ่ม ๆ การพดผู้พดอาจพดคนเดียว โดยมีผู้ฟงกลุ่มใหญ่ฟงอยู่ซึ่งกฎระเบียบต่าง
                                                             ู
                                                       ู
                                ู
                       ๆ ในการพดขึ้นอยู่กับกาลเทศะเท่านั้น และต้องรวมกับมารยาทการแต่งกาย การใช้ถ้อยค า ท่า
                       ประกอบการพูด น้ าเสียงฯลฯ การพูดเป็นเสมือนดาบสองคม พูดให้ดีหรือไม่ดีก็ได้ การพูดดีต้องอาศัย
                                                                          ื่
                       การฝึกฝนเป็นอย่างมาก เพราะไม่ใช่เป็นการสนทนากับบุคคลอนซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่การพูดนั้นมีผู้ฟัง
                       เป็นจ านวนมากและผู้ฟังมีระดับสติปัญญาที่แตกต่างกัน
                                                                         ื่
                                     2.2 มารยาทการสนทนา การพดกับผู้อนหรือการสนทนากันในสังคมนั้นมี
                                                                  ู
                                                        ู
                                                                                    ู
                                                               ื่
                       ความส าคัญมาก การสนทนาเป็นการพดกับผู้อน แตกต่างไปจากการพดคนเดียว กล่าว คือ การ
                       สนทนาย่อมมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน มีการพูดจาระหว่างบุคคลซึ่งอาจมากกว่าสองคน
                                 3. ประเภทมารยาททางใจ
                                 การกระท าต่าง ๆ ที่แสดงออกทั้งทางกาย วาจา ล้วนสะท้อนออกมาจากจิตใจทั้งสิ้น ถ้า

                       จิตใจดี ความคิดดี ก็แสดงออกให้เห็นทางกิริยา วาจาที่ดี ถูกต้องงดงาม เหมาะสมกับกาลเทศะ จน
                       เป็นที่นิยมเลื่อมใสเคารพนับถือแก่ผู้ที่คบค้าสมาคมด้วย พว อนุรักษ์ราชมณเฑียร (2530 : 50) กล่าว
                                                                       ั
                       ว่า ผู้ที่มีมารยาททางใจ คือ ผู้ที่ได้มีการปรับปรุงจิตใจให้ฝักใฝ่ในศีลธรรม และย่อมทราบว่าอะไรถูก

                       อะไรผิด อะไรควรประพฤติและอะไรไม่ควรประพฤติ ดังนั้น ศีลธรรมจึงเป็นเครื่องมือปรับปรุง
                       พฤติกรรมให้ผู้ที่ได้ปฏิบัติแสดงออกมาในทางที่ดี ถูกต้องและเหมาะสมกับกาลเทศะ กับบุคคลและใน

                       ที่สาธารณะต่างๆ และยังช่วยประคับประคองใจคนให้เที่ยงตรงต่อจุดหมายคือความดีงามตามสมควร

                         ่
                       แกเหตุ และสามารถพิสูจน์ให้รู้แจ้งเห็นจริงได้ด้วยตนเอง ฉะนั้น บุคคลพึงระวังส ารวมความคิดจิตใจที่
                       มักจะแสดงออกมาให้เห็นทางกิริยาและวาจา ให้ถูกต้องและงดงามเหมาะกับกาลเทศะและแก่บุคคล

                       เวลาอยู่ในสมาคมหรือในที่สาธารณะ

                                 ดังนั้น การมีมารยาททางใจ จ าเป็นต้องฝึกฝนจิตให้มีความสันโดษ คือ ยินดีพงพอใจ แต่
                                                                                                 ึ
                       ในลาภผลซึ่งเกิดจากผลงานที่ตนแสวงหามาได้โดยชอบธรรม ก าหนดจิตให้มีสติจ าการที่ท า ค าที่พด
                                                                                                        ู
                       แล้วไว้ได้ รู้จักยับยั้งชั่งใจ ไม่มีความประมาท อนจะท าให้เกิดความผิดพลาดเสียหาย ไม่ปล่อยปละ
                                                              ั
                       ละเลยทิ้งโอกาสที่จะกระทาความดีงามเมื่อจิตได้รับการศึกษาขัดเกลาอยู่สม่ าเสมอ ก็ยิ่งมีปัญญาหยั่งรู้

                       เหตุผล รู้ดี รู้ชั่วคุณโทษ ประโยชน์มิใช่ประโยชน์มองเห็นสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง รู้จักวินิจฉัย

                       และท าการต่าง ๆ ด้วยความคิดและพนิจพจารณา ก็จะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเองและส่วนรวม
                                                      ิ
                                                          ิ
                       คุณค่าของการมีมารยาทต่อผู้ประพฤติปฏิบัติ และต่อสังคม
   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27