Page 19 - รายงานวิจัยชั้นเรียนปี 2562 กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์
P. 19

14

                          4.10 เขียนทั้งตัวถูกและตัวผิดให้ถูหรือผิดตามหลักวิชา คือจะกำหนดตัวถูกหรือผิด เพราะสอดคล้อง
               กับความเชื่อของสังคม หรือกับคำพังเพยทั่วๆไป ไม่ได้ ทั้งนี้ เนื่องจากการเรียนการสอนมุ่งให้ทราบความจริงตาม

               หลักวิชาเป็นสำคัญ จะนำความเชื่อโชคลาง หรือขนบธรรมเนียมประเพณีเฉพาะท้องถิ่นมาอ้างไม่ได้
                          4.11 เขียนตัวเลือกให้อิสระขาดจากกัน พยายามอย่าให้ตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่ง เป็นส่วนหนึ่งหรือ
               ส่วนประกอบของตัวเลือกอื่น ต้องให้แต่ละตัวเป็นอิสระจากกันอย่างแท้จริง

                          4.12 ควรมีตัวเลือก 4-5 ข้อสอบแบบเลือกตอบนี้ ถ้าเขียนตัวเลือกเพียง 2 ตัว ก็กลายเป็นข้อสอบแบบ
               ถูก-ผิด และเพื่อป้องกันไม่ให้เดาได้ง่ายๆ จึงควรมีตัวเลือกมากๆ ตัว ที่นิยมใช้หากสอบระดับประถมศึกษาปีที่ 1-2
               ควรใช้ 3 ตัวเลือก ระดับประถมศึกษาปีที่ 3-6 ควรใช้ 4 ตัวเลือก และตั้งแต่มัธยมศึกษาขึ้นไปควรใช้ 5 ตัวเลือก

                          4.13 อย่าแนะคำตอบ ซึ่งการแนะคำตอบมีหลายกรณี ดังนี้
                                  4.13.1 คำถามข้อหลังๆ แนะคำตอบข้อแรกๆ
                                  4.13.2 ถามเรื่องที่ผู้เรียนคล่องปากอยู่แล้ว โดยเฉพาะคำถามประเภทคำพังเพย สุภาษิต คติ
               พจน์หรือคำเตือนใจ
                                  4.13.3 ใช้ข้อความของคำตอบถูกซ้ำกับคำถามหรือเกี่ยวข้องกันอย่างเห็นได้ชัด เพราะนักเรียน

               ที่ไม่มีความรู้ก็อาจจะเดาได้ถูก
                                  4.13.4 ข้อความของตัวถูกบางส่วนเป็นส่วนหนึ่งของทุกตัวเลือก
                                  4.13.5 เขียนตัวถูกหรือตัวลวงถูกหรือผิดเด่นชัดเกินไป

                                  4.14.6 คำตอบไม่กระจาย
                          จากหลักการในการสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบเลือกตอบ ครูผู้สร้างจำเป็นต้อง
               ยึดหลักเกณฑ์ทั้ง 13 ข้อ เพอให้ได้ข้อสอบแบบเลือกตอบที่มีคุณภาพและต้องคำนึงถงลักษณะของข้อสอบที่ดีด้วย
                                                                                    ึ
                                      ื่
               ได้แก่ ความเที่ยวตรง ความเชื่อมั่น ความเป็นปรนัย อำนาจจำแนก และความยาก (สมนึก ภัททิยนี. 2537: 54)
                   5.  ความพึงพอใจในการเรียนรู้

                      1)  ความหมายของความพึงพอใจ (Satisfaction)
                         อานนท์ กระบอกโท (2543: 33) สรุปความหมายของความพึงพอใจว่าความพึงพอใจ หมายถึง
               ความรู้สึกหรือเจตคติที่ดีต่อการทำงานนั้น เช่น ความรู้สึก ชอบ ภูมิใจ และยินดี ผู้มีความพึงพอใจในการทำงานจะ
               มีความเสียสละ อุทิศแรงกายใจและสติปัญญาให้แก่งานอย่างแท้จริง

                         ศุภศิริ โสมาเกตุ (2544: 49) สรุปความหมายของความพึงพอใจ หมายถึง ความรู้สึกนึกคิดหรือเจตคติ
               ส่วนบุคคลที่มีต่อการทำงาน หรือการปฏิบัติกิจกรรมในเชิงบวก ดังนั้น ความพอใจ
               ในการเรียนรู้ จึงหมายถึง ความรู้สึกพอใจ ชอบใจในการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนการสอน และต้องดำเนินกิจกรรม
               นั้นๆ จนบรรลุผลสำเร็จ

                         ทองบ่อ ต้นสีนนท์ (2534: 42) กล่าวถึงความหมายของความพึงพอใจไว้ว่า ความพึงพอใจหมายถึง
                                                               ี่
               ความรู้สึกที่ดีของบุคคลต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใด ซึ่งเป็นความรู้สึกทดีที่เกิดจากการตอบสนอง ทั้งร่างกายและจิตใจทำให้เกิด
               ความพึงพอใจ
                         รักพงษ์ วงษ์ธานี (2546: 65) ให้ความหมายความพงพอใจว่า ความพึงพอใจ คือ ความรู้สึกที่ดี หรือ
                                                                   ึ
               ทัศนคติในทางที่ดีของบุคคล ซึ่งมักเกิดจากการได้รับการตอบสนองตามที่ตนเองต้องการก็จะเกิดความรู้สึกที่ดีในสิ่ง
               นั้น ตรงกันข้ามหากความต้องการที่ตนเองไม่ได้รับการตอบสนองความไม่พึงพอใจก็จะเกิดขึ้น
   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24