Page 20 - รายงานวิจัยชั้นเรียนปี 2562 กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์
P. 20
15
สรุปได้ว่า ความพึงพอใจ คือ ความรู้สึกของบุคคลต่อสิ่งต่างๆ ในทางบวก และเป็นความรู้สึกที่สามรถ
เปลี่ยนแปลงได้เมื่อเวลาหรือสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ดังนั้น ความพึงพอใจในการเรียนรู้จึงหมายถึง ความรู้สึกพอใจ
ที่มีต่อการได้ร่วมปฏิบัติกิจกรรมการเรียนการสอนจนบรรลุผลหรือเป้าหมายในการเรียนรู้
2) ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับความพึงพอใจ
ความพึงพอใจเป็นความรู้สึกทบุคคลมีต่อสิ่งที่ได้รับประสบการณ์และแสดงออกหรือมีพฤติกรรม
ี่
ตอบสนองในลักษณะแตกต่างกันไป ความพึงพอใจในสิ่งต่างๆ นั้น จะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแรงจูงใจหรือการ
กระตุ้นให้เกิดแรงจูงใจกับผู้ปฏิบัติงานจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้งานหรือสิ่งที่ทำนั้นประสบความสำเร็จ การศึกษา
เกี่ยวกับความพึงพอใจเป็นการศึกษาตามทฤษฎีทางพฤติกรรมศาสตร์ ที่เกี่ยวกับความต้องการของมนุษย์ มี
ดังต่อไปนี้
ความพึงพอใจในการเรียนของนักเรียนมีทฤษฎี และมีผู้ให้ความหมายของความพึงพอใจไว้ ดังนี้
สก๊อตต์ (ศุภศิริ โสมาเกตุ. 2544: 49) ได้เสนอความคิดในเรื่องการจูงใจให้เกิดความพึงพอใจต่อการ
ทำงานที่จะให้ผลเชิงปฏิบัติ มีลักษณะดังนี้
1. งานควรมีส่วนสัมพันธ์กับความปรารถนาส่วนตัว และมีความหมายสำหรับผู้ทำ
2. งานนั้นต้องมการวางแผนและวัดความสำเร็จได้ โดยใช้ระบบการทำงานและการควบคุมที่ม ี
ี
ประสิทธิภาพ
3. เพื่อให้ได้ผลในการสร้างสิ่งจูงใจภายในเป้าหมายของงาน จะต้องมีลักษณะ ดังนี้
3.1 คนทำงานมีส่วนในการตั้งเป้าหมาย
3.2 ผู้ปฏิบัติได้รับทราบผลสำเร็จในการทำงานโดยตรง
3.3 งานนั้นสามารถทำให้สำเร็จได้
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (2540: 139) กล่าวถึงทฤษฎีการจูงใจของนักศกษาต่างๆ ดังนี้
ึ
1. ทฤษฎีการจูงใจ ERG ของแอลเดอร์เฟอร์ (Alderfer) กล่าวว่า ความต้องการของมนุษย์แบ่ง
ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
1.1 ความต้องการเพื่อดำรงชีวิต (Existence Needs) หรือ E เป็นความต้องการทางด้านร่างกาย
และปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต
1.2 ความต้องการด้านความสัมพันธ์ (Relatedess Needs) หรือ R เป็นความต้องการที่ม ี
ความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นๆ เช่น สมาชิกในครอบครัว เพื่อร่วมงาน และคนที่ต้องการมีความสัมพันธ์ด้วย
1.3 ความต้องการความเจริญก้าวหน้า (Growth Needs) หรือ G เป็นความต้องการที่จะพัฒนา
ตนเองตามศักยภาพสูงสุด
2. ทฤษฎีการจูงใจของ แมคคลีแลนด์ (Mccleland) เชื่อว่า ความต้องการเป็นการเรียนรู้จากการมี
์
ประสบการณ์ และมีอิทธิพลต่อการรับรู้สถานการณและแรงจูงใจสู่เป้าหมายโดยแบ่งความต้องการออกเป็น 3
ประเภท ดังนี้
2.1 ความต้องการผลสัมฤทธิ์ (Needs for Achievement) เป็นพฤติกรรมที่จะกระทำใดๆ ให้
เป็นผลสำเร็จ เป็นแรงขับเคลื่อนที่จะนำไปสู่ความเป็นเลิศ
2.2 ความต้องการสัมพันธ์ (Needs for Affiliation) เป็นความปรารถนาที่จะสร้างมิตรภาพ และ
มีความสัมพันธ์อันดีกับผู้อื่นและความต้องการควบคุมผู้อื่น
2.3 ความต้องการอำนาจ (Needs for Power) เป็นความต้องการควบคุมผู้อื่น มีอทธิพลต่อผู้อื่น
ิ
และความต้องการควบคุมผู้อื่น