Page 116 - 2557 เล่ม 1
P. 116
๑๑๖
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จําเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๒๘๘ จําคุก ๑๕ ปี จําเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา
มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘
คงจําคุก ๗ ปี ๖ เดือน ริบของกลาง
จําเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษายืน
จําเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟงงเป็นยุติว่า จําเลยจดทะเบียน
สมรสกับนายสําเนียง มีบุตรด้วยกัน ๓ คน ผู้ตายเกี่ยวข้องเป็นภริยาน้อย
ของนายสําเนียง ก่อนเกิดเหตุ ๑๓ วัน นายสําเนียงพาผู้ตายซึ่งตั้งครรภ์ ๖ เดือน
มาพักอาศัยอยู่ที่บ้านไม่มีเลขที่ ซึ่งปลูกสร้างอยู่บริเวณเดียวกันกับบ้านของ
นายสําเนียงและจําเลย ในวันและเวลาเกิดเหตุตามฟ้องจําเลยมาพบผู้ตายที่บ้าน
เพื่อทวงถามผู้ตายให้ชําระหนี้เงินกู้ แล้วเกิดการโต้เถียงท้าทายกันเป็นเหตุให้
จําเลยใช้ท่อนเหล็กและมีดของกลางตีศีรษะและเชือดคอผู้ตายจนเป็นเหตุให้
ผู้ตายถึงแก่ความตาย
ปงญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจําเลยมีว่า จําเลยฆ่าผู้ตายโดยบันดาลโทสะ
หรือไม่ เห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความจากคําเบิกความของจําเลยว่า จําเลยทราบ
เรื่องที่ผู้ตายเป็นภริยาน้อยของสามีตนมานานถึง ๓ เดือนแล้ว จําเลยเคยโทรศัพท์
ไปด่าว่าผู้ตาย เมื่อพบกันก็ต่อว่ากันบ้างแต่ไม่เคยลงมือตบตีกัน จําเลยเคยไป
ทวงหนี้ผู้ตายถึงบ้านมาแล้ว ๒ ครั้ง และในวันเกิดเหตุจําเลยก็เป็นฝ่ายไปทวงถามหนี้
ผู้ตายถึงบ้าน ถ้อยคําที่โต้ตอบกันได้ความเพียงว่า จําเลยบอกให้ผู้ตายใช้หนี้จําเลย
ผู้ตายบอกว่ากูได้ผัวมึงมาเป็นผัวกูแล้วก็หักหนี้กันไปซิ จําเลยบอกว่าถ้าไม่ให้
ก็ไม่ยอม ผู้ตายบอกว่าก็เข้ามาซิ พร้อมกับหยิบมีดทําครัวจากเขียงในครัวมาถือ
แล้วบอกว่ามึงอยากได้ก็เข้ามาซิ ถ้อยคําของผู้ตายดังกล่าวมีลักษณะเป็นเพียง
ถ้อยคําที่ก้าวร้าว ยั่วยุ ท้าทาย โดยไม่ให้ความเคารพหรือยําเกรงภริยาหลวง
เท่านั้น ประกอบกับผู้ตายซึ่งตั้งครรภ์ถึง ๖ เดือน ไม่ได้เป็นฝ่ายเดินเข้าหาเพื่อ
ทําร้ายจําเลย แต่จําเลยถอยหลังออกมาแล้วหยิบท่อนเหล็กของกลางที่วางอยู่ชายคา