Page 113 - 2557 เล่ม 1
P. 113

๑๑๓



               ได้มาตรวจสอบความบกพร่องของโจทก์ทั้งสอง นอกจากนี้โจทก์ทั้งสองยังถูกย้ายงาน
               ไปทํางานในตําแหน่งอื่นที่ไม่ใช่สายงานด้านบัญชีและไม่เคยมีการแต่งตั้งผู้ใดมาก่อน

               แม้เป็นการสั่งโดยใช้อํานาจบริหารงานบุคคลของจําเลย แต่โจทก์ทั้งสองก็มีสิทธิ

               ที่จะขอทราบคําอธิบายชี้แจงจากผู้บริหารของจําเลยได้หากเห็นว่าเป็นคําสั่ง
               ที่ไม่เป็นธรรม การที่โจทก์ทั้งสองขับรถยนต์ไปที่บริษัทซัมมิทออโตซีทอินดัสตรี จํากัด

               เพื่อจะขอเข้าพบผู้บริหาร ซึ่งก่อนหน้านี้โจทก์ทั้งสองก็เคยเข้าไปพบผู้บริหารและ

               สามารถนํารถยนต์ผ่านประตูเข้าไปได้ แต่เมื่อผู้บริหารของจําเลยไม่ยอมให้เข้าพบ
               เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงไม่ยอมเปิดประตูให้โจทก์ทั้งสองนํารถยนต์เข้าไป

               จอดในสถานที่จอด โจทก์ทั้งสองจึงจอดรถยนต์ขวางประตูทางเข้าเพียงด้านเดียว

               และจอดอยู่ไม่นาน รถยนต์ของบริษัทซัมมิทออโตซีทอินดัสตรี จํากัด ยังสามารถ
               เข้าออกได้นั้น แม้การกระทําของโจทก์ทั้งสองในตอนหลังดังกล่าวจะมิใช่วิธีการที่

               ถูกต้องนักและอาจสร้างความไม่สะดวกแก่รถยนต์ที่แล่นผ่านเข้าออกบริษัทบ้าง แต่
               ก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุอันสมควรที่ถึงขนาดจะเลิกจ้างได้ เมื่อจําเลยเลิกจ้างโจทก์ทั้งสอง

               ด้วยเหตุดังกล่าวจึงเป็นการเลิกจ้างโดยปราศจากเหตุอันสมควรและเพียงพอ จึงเป็น

               การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมต่อโจทก์ทั้งสอง ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงาน
               และวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๔๙ ที่ศาลแรงงานภาค ๒ พิพากษามานั้น

               ศาลฎีกาเห็นชอบในผล อุทธรณ์จําเลยข้อนี้ฟงงไม่ขึ้น

                      อนึ่ง ในส่วนที่โจทก์ทั้งสองขอให้จําเลยจ่ายเงินจากกองทุนสํารองเลี้ยงชีพ
               แก่โจทก์ทั้งสอง และศาลแรงงานภาค ๒ พิพากษาให้จําเลยจ่ายเงินดังกล่าวแก่

               โจทก์ทั้งสองนั้น พระราชบัญญัติกองทุนสํารองเลี้ยงชีพ พ.ศ.๒๕๓๐ มาตรา ๗

               บัญญัติให้กองทุนสํารองเลี้ยงชีพที่ได้จดทะเบียนแล้วเป็นนิติบุคคล และมาตรา ๒๓
               บัญญัติให้เมื่อลูกจ้างสิ้นสมาชิกภาพเพราะเหตุอื่นซึ่งไม่ใช่กองทุนเลิก ผู้จัดการกองทุน

               ต้องจ่ายเงินจากกองทุนให้แก่ลูกจ้าง จําเลยจึงไม่มีอํานาจและหน้าที่ในการจัดการ

               เงินกองทุนสํารองเลี้ยงชีพ โจทก์ทั้งสองจึงไม่มีอํานาจฟ้องให้จําเลยจ่ายเงินสะสม
               จากกองทุนสํารองเลี้ยงชีพแก่โจทก์ทั้งสองได้ และในส่วนที่โจทก์ทั้งสองฟ้องขอให้

               จําเลยจ่ายดอกเบี้ยของจํานวนเงินค่าชดเชยในระหว่างเวลาผิดนัดร้อยละ ๑๕ ต่อปี

               แต่ศาลแรงงานภาค ๒ พิพากษาให้จําเลยจ่ายดอกเบี้ยของจํานวนเงินค่าชดเชย
   108   109   110   111   112   113   114   115   116   117   118