Page 112 - 2557 เล่ม 1
P. 112
๑๑๒
จําเลยไม่ยอมให้เข้าพบ พนักงานรักษาความปลอดภัยจึงไม่เปิดประตูให้โจทก์ทั้งสอง
เข้าไปจอดรถยนต์ในสถานที่จอด โจทก์ทั้งสองจึงได้จอดรถยนต์ปิดช่องทางเข้า
บริษัทซัมมิทออโตซีทอันดัสตรี จํากัด เพียงด้านเดียวและจอดอยู่ไม่นาน รถยนต์
บริษัทซัมมิทออโตซีทอันดัสตรี จํากัด ยังสามารถเข้าออกได้ แล้ววินิจฉัยว่า โจทก์ทั้งสอง
เป็นนักบัญชีย่อมจะต้องมีจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพโดยจะต้องทําบัญชี
ให้ถูกต้องกับความเป็นจริง มิฉะนั้นโจทก์ทั้งสองอาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติ
วิชาชีพ พ.ศ.๒๕๔๗ และพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ.๒๕๔๓ การที่โจทก์ทั้งสอง
ปฏิเสธไม่ทําเรื่องอนุมัติการจ่ายเงินเป็นการปฏิบัติตามวิชาชีพในฐานะนักบัญชี
ถือไม่ได้ว่าเป็นการจงใจขัดคําสั่งของจําเลยและการที่โจทก์ทั้งสองจอดรถยนต์ปิดช่อง
ทางเข้าดังกล่าวถือได้ว่าเป็นความผิดเล็กน้อยไม่ใช่ความผิดร้ายแรง ดังนั้นที่จําเลยอุทธรณ์ว่า
โจทก์ทั้งสองนํารถยนต์จอดขวางประตูเข้าออกบริษัทซัมมิทออโตซีทอันดัสตรี จํากัด
เป็นเหตุให้รถยนต์ที่จะบรรทุกสินค้าของบริษัทนําสินค้าเข้าออกไม่ได้ เป็นอุทธรณ์โต้แย้ง
ดุลพินิจในการรับฟงงพยานหลักฐานของศาลแรงงานภาค ๒ เพื่อนําไปสู่ปงญหาว่า
โจทก์ทั้งสองจงใจทําให้จําเลยได้รับความเสียหายอันเป็นความผิดร้ายแรงตาม
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทํางานของจําเลยและเพื่อไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยพร้อมสินจ้าง
แทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแก่โจทก์ทั้งสองนั้นจึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง
ต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน
พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๕๔ วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
มีปงญหาวินิจฉัยว่าจําเลยเลิกจ้างโจทก์ทั้งสองเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม
หรือไม่ การที่โจทก์ทั้งสองจอดรถยนต์ขวางประตูทางเข้าบริษัทซัมมิทออโตซีท
อินดัสตรี จํากัด เป็นผลมาจากการที่โจทก์ทั้งสองปฏิเสธไม่อนุมัติการจ่ายเงินตามที่
ผู้บริหารของจําเลยให้โจทก์ทั้งสองทําเรื่องอนุมัติการจ่ายเงินเป็นจํานวนถึง
๙๐ ล้านบาทเศษ โดยผิดหลักการบัญชีและหนี้ที่เกิดขึ้นก็มีรายการไม่ครบถ้วน
อันเป็นการปฏิบัติตามวิชาชีพในฐานะนักบัญชีตามพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ.๒๕๔๓
และพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ.๒๕๔๗ ทําให้จําเลยไม่พอใจสั่งพักงานโดย
จ่ายค่าจ้างแก่โจทก์ทั้งสอง หลังจากถูกพักงานแล้วโจทก์ทั้งสองได้กลับมาทํางาน
แต่ยังไม่ได้ขึ้นไปที่ห้องทํางานชั้นสองเพราะรอคําอธิบายชี้แจงจากผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่ง