Page 110 - 2557 เล่ม 1
P. 110
๑๑๐
จ าเลยจ่ายดอกเบี้ยของจ านวนเงินค่าชดเชยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นั้น
พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ มาตรา ๙ วรรคหนึ่ง บัญญัติให้นายจ้าง
เสียดอกเบี้ยของจ านวนเงินค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างในระหว่างเวลาผิดนัด
ร้อยละ ๑๕ ต่อปี ที่ศาลแรงงานภาค ๒ พิพากษาให้จ าเลยจ่ายดอกเบี้ยของ
จ านวนเงินค่าชดเชยร้อยละ ๗.๕ ต่อปี จึงไม่ชอบด้วย พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน
พ.ศ.๒๕๔๑ มาตรา ๙ วรรคหนึ่ง ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วย
ความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นอุทธรณ์
ศาลฎีกาก็มีอ านาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๑๔๒ (๕), ๒๔๖ ประกอบ
พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๓๑
______________________
คดีทั้งสองสํานวนนี้ ศาลแรงงานภาค ๒ สั่งให้รวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน
โดยให้เรียกโจทก์เรียงตามลําดับสํานวนว่าโจทก์ที่ ๑ ที่ ๒ และเรียกจําเลยทั้งสองสํานวน
ว่าจําเลย
โจทก์ทั้งสองฟ้องขอให้บังคับจําเลยจ่ายค่าชดเชย ๑๓๕,๙๕๗ บาท ค่าจ้าง
แทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ๖๑,๙๓๕.๙๓ บาท ค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม
๓๖๒,๕๕๒ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี จากต้นเงินดังกล่าว
นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชําระเสร็จ เงินกองทุนสํารองเลี้ยงชีพในส่วนของจําเลย
นับตั้งแต่วันที่จําเลยได้จ่ายเงินในส่วนของจําเลยเข้ากองทุนสํารองเลี้ยงชีพจนถึง
วันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๔๘ แก่โจทก์ที่ ๑ และให้จําเลยจ่ายค่าชดเชย ๖๔๙,๑๕๘ บาท
ค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ๑๔๗,๘๖๓ บาท ค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม
๙๗๓,๗๓๗ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี จากต้นเงินดังกล่าว
นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชําระเสร็จและเงินกองทุนสํารองเลี้ยงชีพในส่วน
ของจําเลยนับแต่วันที่จําเลยได้จ่ายเงินในส่วนของจําเลยเข้ากองทุนสํารองเลี้ยงชีพ
จนถึงวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๔๘ แก่โจทก์ที่ ๒
ศาลแรงงานภาค ๒ พิพากษาให้จําเลยจ่ายค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า
๖๑,๙๓๕ บาท ค่าชดเชย ๑๓๕,๙๕๗ บาท และค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม