Page 85 - 2557 เล่ม 1
P. 85
๘๕
อนึ่ง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จําเลยชําระเงิน ๙๐,๐๐๐ บาท แก่โจทก์
พร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป จําเลยอุทธรณ์ขอให้จําเลยชําระเงิน
ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ลดลงจากที่ศาลชั้นต้นกําหนดตามที่เห็นสมควร ซึ่งย่อมมี
ความหมายรวมถึงว่าศาลอุทธรณ์ภาค ๕ อาจไม่กําหนดจํานวนค่าเสียหายให้จําเลย
รับผิดชดใช้แก่โจทก์เลยก็ได้ ดังนี้ ทุนทรัพย์ในชั้นอุทธรณ์สําหรับฟ้องอุทธรณ์ของ
จําเลยจึงมีจํานวน ๙๐,๐๐๐ บาท แต่จําเลยเสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์มาในทุนทรัพย์
ที่โจทก์ฟ้องในศาลชั้นต้นจํานวน ๒๒๔,๘๖๕.๘๕ บาท จึงเป็นการเสียค่าขึ้นศาล
ชั้นอุทธรณ์เกินมา ชอบที่จะสั่งคืนให้แก่จําเลย รวมทั้งเมื่อศาลอุทธรณ์ภาค ๕
พิพากษาให้จําเลยชําระเงิน ๒๒๔,๘๖๕.๘๕ บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยนับแต่
วันฟ้องเป็นต้นไปตามฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์ จําเลยคงฎีกาขอให้ลดค่าเสียหาย
ลงมาเหลือเพียงไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท ทุนทรัพย์ในชั้นฎีกาจึงมีจํานวนเพียง
๑๒๔,๘๖๕.๘๕ บาท แต่จําเลยเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกามาในทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดี
จํานวน ๒๒๔,๘๖๕.๘๕ บาท จึงเป็นการเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาเกินมา ชอบที่จะ
สั่งคืนให้แก่จําเลยด้วยเช่นกัน
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จําเลยชําระเงินจํานวน ๑๘๑,๓๖๕.๘๕ บาท พร้อม
ดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป
จนกว่าจะชําระเสร็จแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคําพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๕
ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาที่เสียเกินมา
แก่จําเลย
(สวัสดิ์ สุรวัฒนานันท์ – สุทธิโชค เทพไตรรัตน์ – สรศักดิ์ วาจาสิทธิศิลป์)
ประเสริฐ เสียงสุทธิวงศ์ - ย่อ
อดุลย์ ขันทอง/วิรัช ชินวินิจกุล - ตรวจ