Page 66 - หนังสือที่ระลึกพิธีเปิด E-book
P. 66
59
คดีอีกเรื่องหนึ่ง บริษัท ล จำกัด ประกอบกิจการผลิตลวดตาข่าย
มีทุนจดทะเบียน 100,000,000 บาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2546 ขาดทุนสะสม
114,000,000 บาท มีการเจรจากับเจ้าหนี้เงินกู้ระยะยาว เพื่อหาแนวทางการขาย
กิจการและจ่ายคืนเงินกู้ บริษัท ล จำกัด ประกาศหยุดกิจการชั่วคราว ปัญหาว่าเป็นกรณี
ตามมาตรา 75 หรือไม่ แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่า ในระหว่างหยุดกิจการชั่วคราว
มีการผลิตระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2546 ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2546 เนื่องจาก
ยังคงมีวัตถุดิบคงเหลือและงานระหว่างทำ (สินค้าที่อยู่ระหว่างการผลิต) เหลืออยู่
อีก การผลิตในช่วงที่หยุดกิจการชั่วคราว จึงเป็นไปเพื่อไม่ให้วัตถุดิบและงาน
ระหว่างทำเสียเปล่า ทั้งยังมีรายรับเข้าสู่กิจการ เป็นการบรรเทาวิกฤตการณ์ทาง
เศรษฐกิจทางหนึ่ง ส่วนที่บริษัท ล จำกัด สั่งสินค้าจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
มาจำหน่ายนั้น ปรากฏว่าบริษัท ล จำกัด ประกอบกิจการผลิตลวดเหล็ก ลวดผูกเหล็ก
ลวดหนาม ลวดชุบสังกะสี ตะแกรงเหล็กเสริมคอนกรีต ลวดตาข่ายทุกชนิด ไม่ได้
ประกอบกิจการประเภทซื้อมา-ขายไป การที่สั่งสินค้าจากประเทศสาธารณรัฐ
ประชาชนจีนมาจำหน่าย ก็เพราะมีราคาต่ำกว่าต้นทุนการผลิต เป็นวิธีการแก้ไข
ปัญหาวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่เป็นการเปลี่ยนประเภทกิจการ การพิจารณาว่า
บริษัท ล จำกัด จำเป็นต้องหยุดกิจการหรือไม่ ต้องพิจารณาจากการประกอบ
กิจการผลิตของบริษัท เมื่อปรากฏว่าบริษัท ล จำกัด ขาดทุนสะสมถึง 114,000,000 บาท
เกินกว่าทุนจดทะเบียนที่มีเพียง 100,000,000 บาท ไม่มีคำสั่งซื้อและสินค้าที่ผลิต
จำหน่ายไม่ได้ จนต้องหาทางขายกิจการเพื่อนำเงินมาจ่ายคืนให้เจ้าหนี้ จึงเป็นกรณี
นายจ้างมีความจำเป็นต้องหยุดกิจการผลิตทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นการชั่วคราว
โดยเหตุที่มิใช่เหตุสุดวิสัย ตามมาตรา 75 วรรคหนึ่ง บริษัท ล จำกัด จึงชอบที่จะ
จ่ายเงินให้แก่ลูกจ้างร้อยละ 50 ของค่าจ้างในวันทำงานที่ลูกจ้างได้รับก่อนหยุด
กิจการตลอดระยะเวลาที่ไม่ได้ให้ลูกจ้างทำงาน (กฎหมายขณะนั้น) ได้ (คำพิพากษา
ฎีกาที่ 5949/2550)