Page 307 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 307
๒๙๔
ุ
ิ
(๓) ค าพพากษาหรือค าสั่งของศาลอทธรณ์ได้วินิจฉัยข้อกฎหมายที่ส าคัญซึ่งยังไม่มีแนวค าพพากษา
ิ
หรือค าสั่งของศาลฎีกามาก่อน
(๔) เมื่อค าพิพากษาหรือค าสั่งของศาลอทธรณ์ขัดกับค าพิพากษาหรือคาสั่งอันถึงที่สุดของศาลอื่น
ุ
(๕) เพื่อเป็นการพัฒนาการตีความกฎหมาย
(๖) ปัญหาส าคัญอื่นตามข้อก าหนดของประธานศาลฎีกา
และตามข้อก าหนดของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการของอนุญาตฎีกาในคดีแพ่ง พ.ศ. ๒๕๕๘ และ
่
ข้อก าหนดของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการของอนุญาตฎีกาในคดีแพง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔ ข้อ ๑๓ ได้
ก าหนดปัญหาส าคัญที่จะอนุญาตฎีกาได้ตามมาตรา ๒๔๙ วรรคสอง (๖) ได้แก่ กรณีดังต่อไปนี้
ุ
(๑) ค าพิพากษาหรือค าสั่งของศาลอทธรณ์มความเห็นแย้งในสาระส าคัญและศาลฎีกาเห็นสมควร
ี
วินิจฉัย
(๒) ค าพิพากษาหรือค าสั่งของศาลอทธรณ์ได้วินิจฉัยข้อกฎหมายส าคัญที่ไม่สอดคล้องกับความตกลง
ุ
ระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันกับประเทศไทย
(๓) ค าพพากษาหรือค าสั่งของศาลชั้นต้นและศาลอทธรณ์ขัดแย้งกันในสาระส าคัญและศาลฎีกา
ิ
ุ
เห็นสมควรวินิจฉัย
หลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัติแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ๒๗) พ.ศ. ๒๕๕๘
ก าหนดให้ศาลอนุญาตให้ฎีกาได้ และข้อก าหนดของประธานศาลฎีกาที่ศาลอนุญาตให้ฎีกาได้นั้น เป็นหลักเกณฑ์
ื่
ที่คู่ความจะน ามาใช้เพอขออนุญาตให้ฎีกาไม่ได้เลย เพราะขัดกับสิทธิปัญหาความเดือดร้อน ความขัดแย้งของ
ประชาชนที่ต้องน าคดีมาสู่ศาล คู่ความจะน าคดีมาสู่ศาลได้ก็เพราะมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่
่
ระหว่างกัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความแพงมาตรา ๕๕ การมีคดีกันในศาลและการที่คู่ความฎีกา
ิ
ื่
ิ
คดีก็เพราะมีข้อโต้แย้งหรือข้อพพาทระหว่างกัน การฎีกาคดีก็เพอขอให้ศาลฎีกาใช้อานาจ “ตรวจสอบคดี”
( Judicial Review ) ซึ่งเป็นเรื่องของสิทธิหรือหน้าที่ระหว่างคู่ความ โดยคู่ความจะฎีกาคดีในประเด็นอนซึ่งไม่
ื่
เกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทระหว่างคู่ความนั้นเป็นเรื่องที่ไม่อาจกระท าได้ เพราะการจะร้องขอความยุติธรรมจาก
ศาล ก็จะต้องร้องขอความยุติธรรมในเรื่องที่เกี่ยวกับสิทธิหน้าที่และความรับผิดของคู่ความที่จะมีกับคู่กรณี
หรือไม่เท่านั้น และการฎีกาคดีก็เป็นเรื่องที่คู่ความขอให้ศาลใช้อ านาจ “ตรวจสอบคดี”( Judicial Review ) และ
ขอให้ศาลให้ความยุติธรรมเพอตอบสนองความต้องการในปัญหาข้อพพาทระหว่างกัน ( Retributive Justice )
ื่
ิ
เท่านั้น ประชาชนจะฎีกาคดีโดยจะใช้สิทธิฎีกาก็เพอขอความยุติธรรมกับเรื่องที่ตนไม่ได้รับความยุติธรรมนั้นไม ่
ื่
อาจกระท าได้ โดยจะฎีกาขอความยุติธรรมในเรื่องอนตามที่กฎหมายก าหนดไว้ว่าเป็นปัญหาส าคัญที่ศาลฎีกา
ื่
ควรวินิจฉัยอนุญาตให้ฎีกา หรือปัญหาส าคัญตามข้อก าหนดของประธานศาลฎีกานั้นไม่อาจกระท าได้ เพราะ
ไม่ใช่เป็นการฎีกาขอความยุติธรรมในปัญหาในคดีของตน ปัญหาส าคัญที่กฎหมายก าหนดให้ศาลฎีกาอนุญาต
ให้ฎีกาได้ หรือข้อก าหนดที่ศาลฎีกาอนุญาตให้ฎีกาได้นั้น ไม่ใช่เป็นปัญหาเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ระหว่าง
ื่
คู่ความ แต่เป็นปัญหาในทางสังคมและเป็นปัญหาเกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะเพอมหาชน ปัญหาดังกล่าวไม่ใช่
ื่
เป็นปัญหาเพอระงับข้อพพาทแห่งคดีระหว่างคู่ความโดยคู่ความที่จะขออนุญาตฎีกาไม่อาจน าเอาปัญหาส าคัญ
ิ
ที่บัญญัติไว้ในกฎหมายหรือข้อก าหนดของประธานศาลฎีกามาฎีกาในคดีได้ เพราะขัดต่อหลักกฎหมาย

