Page 302 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 302
๒๘๙
ซึ่งเป็นการเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงระบบการฎีกาจากระบบสิทธิมาเป็นระบบอนุญาตในประมวลกฎหมายวิธี
่
ิ
พจารณาความแพงของประเทศไทย และหากศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ฎีกาแล้วค าพพากษาหรือค าสั่งของ
ิ
ุ
ศาลอทธรณ์ย่อมถึงที่สุด โดยยังคงหลักการเดิมให้ศาลฎีกามีอานาจวินิจฉัยทั้งปัญหาข้อเท็จจริงและปัญหา
ข้อกฎหมาย คู่ความในคดีจึงสามารถฎีกาได้ทั้งปัญหาข้อเท็จจริงและปัญหาข้อกฎหมาย เพยงแต่ต้องได้รับ
ี
อนุญาตจากศาลฎีกาก่อน ภายใต้หลักเกณฑ์ของการฎีการะบบอนุญาตในคดีแพงตามประมวลกฎหมายวิธี
่
ิ่
่
พิจารณาความแพงที่แก้ไขเพมเติมดังกล่าว โดยสาระส าคัญของพระราชบัญญัติแก้ไขเพมเติมประมวลกฎหมาย
ิ่
วิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ๒๗) พ.ศ.๒๕๕๘ มีดังนี้
๑. ยกเลิกการอทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาตามมาตรา ๒๒๓ ทวิ เพอให้
ุ
ื่
คดียุติที่ศาลอุทธรณ์เป็นหลัก และสอดคล้องกับการแก้ไขหลักการในการฎีกาให้เป็นระบบอนุญาต
๒. เพิ่มบทบัญญัติมาตรา ๒๔๔/๑ ซึ่งมีความว่า ภายใต้บังคับมาตรา ๒๔๗ ค าพิพากษาหรือค าสั่ง
ของศาลอุทธรณ์ให้เป็นที่สุด เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขหลักการในการฎีกาให้เป็นระบบอนุญาต
๓. แก้ไขมาตรา ๒๔๗ ก าหนดให้การฎีกาค าพพากษาหรือค าสั่งของศาลอทธรณ์ในคดีแพง
ุ
ิ
่
จะกระท าได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา โดยการขออนุญาตฎีกาให้ยื่นค าร้องพร้อมกับค าฟองฎีกาต่อศาล
้
ชั้นต้นที่มีค าพิพากษาหรือค าสั่งในคดีนั้น
ิ
๔. แก้ไขมาตรา ๒๔๘ ก าหนดให้องค์คณะผู้พพากษาที่ประธานศาลฎีกาแต่งตั้ง ซึ่งประกอบด้วย
รองประธานศาลฎีกาและผู้พพากษาในศาลฎีกาซึ่งด ารงต าแหน่งไม่ต่ ากว่าผู้พพากษาศาลฎีกาอกอย่างน้อย
ิ
ี
ิ
สามคนเป็นผู้พิจารณาค าร้องขออนุญาตฎีกา
ิ
๕. แก้ไขมาตรา ๒๔๙ ก าหนดให้ศาลฎีกาพจารณาอนุญาตให้ฎีกาได้เมื่อเห็นว่าปัญหาที่ฎีกา
เป็นปัญหาส าคัญที่ศาลฎีกาควรวินิจฉัย โดยปัญหาส าคัญนี้ได้แก ่
(๑) ปัญหาที่เกี่ยวพันกับประโยชน์สาธารณะ หรือความสงบเรียบร้อยของประชาชน
(๒) เมื่อค าพพากษาหรือค าสั่งของศาลอทธรณ์ได้วินิจฉัยข้อกฎหมายที่ส าคัญขัดกันหรือขัดกับ
ิ
ุ
แนวบรรทัดฐานของค าพิพากษาหรือค าสั่งของศาลฎีกา
ิ
(๓) ค าพพากษาหรือค าสั่งของศาลอทธรณ์ได้วินิจฉัยข้อกฎหมายที่ส าคัญซึ่งยังไม่มีแนวค าพพากษา
ิ
ุ
หรือค าสั่งของศาลฎีกามาก่อน
ุ
(๔) เมื่อค าพิพากษาหรือค าสั่งของศาลอทธรณ์ขัดกับค าพิพากษาหรือคาสั่งอันถึงที่สุดของศาลอื่น
(๕) เพื่อเป็นการพัฒนาการตีความกฎหมาย
(๖) ปัญหาส าคัญอื่นตามข้อก าหนดของประธานศาลฎีกา
ิ่
๖. เพมบทบัญญัติมาตรา ๒๕๐ ให้ประธานศาลฎีกามีอานาจออกข้อก าหนดโดยได้รับความ
ิ
เห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นค าร้องขออนุญาตฎีกา การพจารณา
ิ
ิ
วินิจฉัยและระยะเวลาในการพิจารณาค าร้อง การตรวจรับฎีกา การแก้ฎีกา การพจารณา และการพพากษาคดี
รวมทั้งสั่งคืนค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกา ซึ่งต่อมาประธานศาลฎีกาออกข้อก าหนดของประธานศาลฎีกาว่าด้วย
่
การขออนุญาตฎีกา ในคดีแพง พ.ศ.๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ และข้อก าหนดของประธาน
่
ศาลฎีกาว่าด้วยการขออนุญาตฎีกาในคดีแพง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพนธ์ ๒๕๖๔
ั