Page 324 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 324
๓๑๑
ิ
่
ตามประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความแพง มาตรา ๒๓ จากนั้น จึงมีค าสั่งให้ออกหมายจ าคุกเมื่อคดีถึงที่สุด
(๘)
ให้จ าเลย
ุ
ผู้ศึกษามีความเห็นว่า การอทธรณ์หรือฎีกาเป็นสิทธิของคู่ความตามกฎหมายที่สามารถกระท าได้
โดยสมัครใจ เว้นแต่อยู่ในบังคับห้ามอทธรณ์ฎีกาตามกฎหมาย โจทก์และจ าเลยจึงควรมีสิทธิที่จะสละสิทธิ
ุ
ั
อทธรณ์ฎีกาได้ เพราะไม่ใช่เรื่องขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอนดีของประชาชน เว้นแต่เป็นคดี
ุ
ุ
ที่ศาลชั้นต้นพพากษาประหารชีวิตหรือจ าคุกตลอดชีวิต ซึ่งศาลชั้นต้นต้องส่งส านวนไปยังศาลอทธรณ์ตาม
ิ
ู่
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๔๕ วรรคสอง แต่เห็นควรให้ปฏิบัติตามคมือการออกค าสั่ง
หรือหมายอาญา ๒๕๕๙ ที่ให้ค าแนะน าว่า กรณีจ าเลยยื่นค าร้องขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายจ าคุกเมื่อคดีถงที่สุด
ึ
ุ
ื่
โดยแถลงว่าไม่ติดใจที่จะอทธรณ์หรือฎีกา เพอขอรับสิทธิตามพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ และโจทก์แถลงไม่ติด
ุ
ใจที่จะอทธรณ์หรือฎีกาเช่นเดียวกัน ศาลควรออกหมายจ าคุกถึงที่สุดให้แก่จ าเลยตามที่ร้องขอ โดยมีค าสั่งให้
ิ
ย่นระยะเวลาอทธรณ์หรือฎีกาให้สิ้นสุดลง ถือว่ากรณีมีพฤติการณ์พเศษ ตามประมวลกฎหมายวิธีพจารณา
ิ
ุ
ความแพ่ง มาตรา ๒๓ จากนั้นจึงออกหมายจ าคุกเมื่อคดีถงที่สุดให้จ าเลย
ึ
ิ
ุ
ิ
๒. กรณีขอถอนอทธรณ์ในคดีที่จ าเลยต้องโทษจ าคุกตลอดชีวตหรือประหารชีวต
ุ
ุ
จ าเลยอทธรณ์ฝ่ายเดียว แม้จ าเลยขอถอนอทธรณ์ ศาลชั้นต้นยังมีหน้าที่ต้องส่งส านวนไปยัง
ิ
ุ
ศาลอทธรณ์ ค าพพากษายังไม่ถึงที่สุด เว้นแต่ศาลอทธรณ์พพากษายืนตามประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความ
ุ
ิ
ิ
ิ
อาญา มาตรา ๒๔๕ วรรคสอง ตามค าพพากษาศาลฎีกาที่ ๑๓๖๕๔/๒๕๕๕ “คดีนี้ศาลชั้นต้นพพากษาลงโทษ
ิ
จ าคุกจ าเลยตลอดชีวิต ศาลชั้นต้นจึงมีหน้าที่ต้องส่งส านวนคดีไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิจารณาพิพากษาตาม
ุ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๔๕ วรรคสอง การที่จ าเลยถอนอทธรณ์ จึงไม่เป็นผลให้คดี
ึ
ของจ าเลยถึงที่สุด ศาลชั้นต้นออกหมายจ าคุกเมื่อคดีถงที่สุดโดยระบุว่าคดีถึงที่สุดวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๔๙ ซึ่ง
ั
่
ุ
เป็นวันที่อานค าสั่งอนุญาตให้ถอนอุทธรณ์ของศาลอทธรณ์ภาค ๑ ให้จ าเลยฟงจึงไม่ชอบ ต่อมาศาลอุทธรณ์
ิ
ภาค ๑ พพากษายืนลงโทษจ าเลยตามศาลชั้นต้น คดีส าหรับจ าเลยจึงเป็นที่สุดเมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๐ ซึ่ง
ิ
ั
เป็นวันที่ศาลชั้นต้นได้อานค าพพากษาศาลอทธรณ์ภาค ๑ ให้จ าเลยฟงตามประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความ
ิ
ุ
่
อาญา มาตรา ๒๔๕ วรรคสอง ที่ศาลชั้นต้นออกหมายจ าคุกเมื่อคดีถึงที่สุดใหม่โดยระบุว่า คดีถึงที่สุดวันที่ ๙
พฤษภาคม ๒๕๕๐ จึงชอบแล้ว ส่วนจ าเลยจะได้รับประโยชน์จากพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ
หรือไม่ ย่อมเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ก าหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ศาลฎีกาไม่อาจแก้ไข
หมายจ าคุกเมื่อคดีถึงที่สุดซึ่งออกโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว” และค าพพากษาศาลฎีกาที่ ๒๓๓๘/๒๕๓๖
ิ
ุ
ิ
“ศาลชั้นต้นพพากษาลงโทษประหารชีวิตจ าเลย จ าเลยอทธรณ์ ระหว่างการพจารณาของศาลอทธรณ์
ิ
ุ
(๘) ส านักประธานศาลฎีกา ส านักงานศาลยุติธรรม, (๒๕๔๙), คู่มือการออกค าสั่งหรือหมายอาญา, หน้า ๙๘.