Page 326 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 326
๓๑๓
หมายจ าคุก เพราะคดียังไม่ถึงที่สุดแต่อย่างใดเลย ส าหรับเรื่องหมายจ าคุกเมื่อคดีถึงที่สุดในคดีอาญานั้น
ิ
ประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญา มาตรา ๒๔๕ บัญญัติว่า เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วให้บังคับคดีโดยไม่ชักช้า
และโดยปกติศาลย่อมจะออกหมายจ าคุกเมื่อคดีถึงที่สุดในโอกาสแรกที่ปรากฏเป็นที่แน่ชัดว่า คดีเรื่องนั้นได้ถึง
ที่สุดยุติแล้ว ส าหรับคดีนี้ศาลชั้นต้นก็ได้ออกหมายจ าคุกเมื่อคดีถึงที่สุดในวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๑๔ ที่ศาลชั้นต้น
ุ
่
อานค าสั่งศาลอทธรณ์ที่อนุญาตให้จ าเลยถอนอทธรณ์ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ศาลฎีกาจึงไม่อาจสั่งให้ศาลชั้นต้นแก้ไข
ุ
เปลี่ยนแปลงหมายจ าคุกเมื่อคดีถึงที่สุดตามความประสงค์ของจ าเลยได้”
่
ผู้ศึกษามีความเห็นว่า ควรออกหมายจ าคุกเมื่อคดีถึงที่สุดในวันที่ศาลชั้นต้นอานค าสั่งอนุญาตให้
ิ
ุ
ิ
ถอนอทธรณ์ตามค าพพากษาศาลฎีกาที่ ๒๑๗๔/๒๕๑๔ ซึ่งศาลฎีกาในคดีดังกล่าวตีความค าว่า “ค าพพากษาหรือ
ค าสั่งเช่นว่านั้นให้ถือว่าเป็นที่สุดตั้งแต่วันที่มีค าสั่งให้จ าหน่ายคดีจากสารบบความ” ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความแพ่ง มาตรา ๑๔๗ วรรคสอง หมายถึงวันที่ศาลชั้นต้นอ่านค าสั่งของ ศาลอุทธรณ์
๔. กรณีขอถอนฎีกา
จ าเลยฎีกาฝ่ายเดียว ศาลฎีกามีค าพพากษาให้คดีถึงที่สุดนับแต่วันที่จ าเลยยื่นค าร้องตาม
ิ
ค าพพากษาศาลฎีกาที่ ๘๑๔๑ - ๘๑๔๕/๒๕๖๑ “เมื่อจ าเลยที่ ๙ ยื่นฎีกาและศาลชั้นต้นมีค าสั่งรับฎีกา
ิ
คดีของจ าเลยที่ ๙ จึงอยู่ระหว่างการพจารณาของศาลฎีกา การที่จ าเลยที่ ๙ ยื่นค าร้องขอถอนฎีกา คดีของ
ิ
จ าเลยที่ ๙ ย่อมเป็นที่สุดนับแต่วันที่ศาลฎีกามีค าสั่งจ าหน่ายคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพจารณา
ิ
ความแพง มาตรา ๑๔๗ วรรคสอง ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญา มาตรา ๑๕ ซึ่งโดยปกติ
่
ิ
จะย้อนหลังไปถึงวันที่จ าเลยที่ ๙ ยื่นค าร้องขอถอนฎีกา จึงไม่อาจออกหมายจ าคุกเมื่อคดีถึงที่สุดย้อนหลังไปถึง
วันที่อ่านค าพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จ าเลยที่ ๙ ฟังตามที่จ าเลยที่ ๙ ขอได้ ให้ศาลชั้นต้นออกหมายจ าคุกเมื่อคดี
ถึงที่สุดแก่จ าเลยที่ ๙ นับแต่วันยื่นค าร้องนี้” และมีค าสั่งค าร้องศาลฎีกาที่ ๒๕๕๑/๒๕๓๓, ๑๓๑๐/๒๕๓๑,
๑๒๓๗/๒๕๓๑, ๑๒๑๙/๒๕๓๑, ๑๒๑๗/๒๕๓๑, ๑๒๑๕/๒๕๓๑, ๑๒๑๔/๒๕๓๑, ๑๒๑๙/๒๕๓๑, ๑๒๐๖/
๒๕๓๑ วินิจฉัยท านองเดียวกัน มีข้อสังเกตว่าตามค าสั่งค าร้องศาลฎีกา ปี ๒๕๓๑ เป็นกรณีจ าเลยขอถอนฎีกา
เพื่อประโยชน์ในการได้รับพระราชทานอภัยโทษ ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. ๒๕๓๑ ซึ่งมี
ผลใช้บังคับเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๓๑ แต่มีค าสั่งค าร้องศาลฎีกาที่ ๒๓๓๒/๒๕๓๓ ให้ออกหมายจ าคุก
ิ
เมื่อคดีถึงที่สุดนับแต่วันที่ศาลสั่งค าร้อง “พเคราะห์แล้ว อนุญาตให้จ าเลยที่ ๑ ถอนฎีกาได้ ให้ออกหมายจ าคุก
เมื่อคดีถึงที่สุดให้จ าเลยนับแต่วันสั่งค าร้องนี้” กรณีนี้จึงมีค าพพากษาและค าสั่งค าร้องศาลฎีกาวินิจฉัยเป็น ๒
ิ
แนว ทั้งยังขัดแย้งกับค าพพากษาศาลฎีกาที่ ๒๑๗๔/๒๕๑๔ กรณีจ าเลยขอถอนอทธรณ์ ซึ่งศาลฎีกาวินิจฉัยให้
ุ
ิ
คดีถึงที่สุดในวันที่ศาลชั้นต้นอ่านค าสั่งศาลอุทธรณ์ที่อนุญาตให้จ าเลยถอนอุทธรณ์