Page 368 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 368

355


                             ๒.๑  เจ้าพนักงานผู้มีอ านาจจัดการตามหมายจับ

                                                                                         ื่
                             เจ้าพนักงานผู้มีอานาจจับในปัจจุบันจะมีเจ้าพนักงานต ารวจกับเจ้าพนักงานอนที่มีอานาจหน้าที่

               ในลักษณะเดียวกัน เช่น เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพเศษ (DSI) เจ้าหน้าที่ของส านักงานคณะกรรมการ
                                                             ิ
               ป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) เป็นต้น แต่ทั้งนี้เห็นควรศึกษาเฉพาะเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องกับ
               การจับกุมในคดีที่อยู่ในอานาจของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ด ารงต าแหน่งทางการเมืองเท่านั้น คือ

               เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และเจ้าพนักงานต ารวจ
                             พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑

               มาตรา ๓๙ บัญญัติให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นพนักงาน

               ฝ่ายปกครองหรือต ารวจ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญา มาตรา ๗๘ บัญญัติให้พนักงาน
                                                              ิ

               ฝ่ายปกครองหรือต ารวจมีอานาจจับกุม ซึ่งมีผลให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ที่ได้รับมอบหมายดังกล่าวมี
               อานาจจับกุมเช่นเดียวกับพนักงานฝ่ายปกครองหรือต ารวจ แต่ในทางปฏิบัติบุคลากรและสถานที่ใช้ในการ

               จับกุมและควบคุมตัวผู้หลบหนีของ ป.ป.ช. ยังไม่มีสภาพพร้อม ท าให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ไม่สามารถด าเนินการ

               ติดตามจับกุมผู้หลบหนีได้ ทั้งมีการประกาศออกระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

               แห่งชาติว่าด้วยการตรวจสอบและไต่สวน พ.ศ. ๒๕๖๑ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๑ เป็นต้น
               มา ก าหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ที่ได้รับมอบหมายท าการจับกุมและ

                                                     ้
               ควบคุมผู้ถูกกล่าวหาได้เฉพาะในชั้นก่อนยื่นฟองคดีหรือยื่นร้องต่อศาลเท่านั้น เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จึงไม่ได้รับ
               มอบหมายให้จับกุมในชั้นพิจารณาของศาล ท าให้อ านาจหน้าที่ในการจับกุมผู้ถูกกล่าวหาหรือจ าเลยตกอยู่กับ
               เจ้าพนักงานต ารวจเพยงฝ่ายเดียว ส่วนเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ท าหน้าที่เพยงสืบสวน ชี้เบาะแสะและที่อยู่ผู้ของ
                                                                          ี
                                  ี
               หลบหนี และช่วยเหลือเจ้าพนักงานต ารวจในการจับกุมเท่านั้น แต่เมื่อศึกษาสภาพองค์กรของเจ้าพนักงาน

               ต ารวจ คือ ส านักงานต ารวจแห่งชาติ ซึ่งแม้จะไม่อยู่ในสังกัดของกระทรวงใด ๆ แต่ก็อยู่ในบังคับบัญชาของ
               นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการอยู่ใต้อาณัฐของฝ่ายการเมือง ท าให้ขาดความเป็นอิสระในด้านการสืบสวนจับกุมคดี

                                                ิ
               ทางการเมือง ซึ่งอาจส่งผลให้เกรงกลัวอทธิพลทางการเมืองและไม่กล้าสืบสวนจับกุมข้าราชการระดับสูงและ
               นักการเมืองที่มีอทธิพลได้ นอกจากความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. แล้ว จากการศึกษาแนวความคิด
                              ิ
               ทฤษฎีและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง จะเห็นได้ว่าปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติหน้าที่สืบสวนจับกุมผู้กระท าผิด

               กฎหมายให้ได้ผลดีมากยิ่งขึ้นนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายหลายด้านที่เกี่ยวเนื่อง
               สัมพันธ์กัน เห็นควรเลือกศึกษาวิเคราะห์เฉพาะปัจจัยที่เกี่ยวข้องส าคัญ ๆ ซึ่งมีผลต่อการปฏิบัติหน้าที่สืบสวน

               จับกุม กล่าวคือ
                              ๒.๑.๑ ประสบการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ด้านการสืบสวนจับกุม มีการศึกษาวิจัยพบว่า หาก

               ต ารวจที่เคยผ่านการสืบสวนหรือสอบสวน เคยวางแผนจับกุมผู้กระท าผิดกฎหมายมาเป็นระยะเวลานาน

               เท่าใด จะท าให้ประสิทธิภาพในการท างานของต ารวจสูงขึ้นตามไปด้วย เพราะการปฏิบัติงานของต ารวจถือว่า
               เป็นงานที่มีศิลป์ ผู้ปฏิบัติงานที่เคยผ่านงานด้านสืบสวนจับกุมผู้กระท าผิดมาระยะเวลานาน ย่อมมี
   363   364   365   366   367   368   369   370   371   372   373