Page 38 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 38
25
ของเครือข่ายที่ตนเข้าไปเกี่ยวข้องรู้เห็นให้แก่เจ้าพนักงานรัฐ นอกจากจะท าให้รัฐสามารถลงโทษผู้กระท า
ี
ความผิดได้แล้วยังสามารถขยายผลไปถึงการติดตามจับกุมผู้กระท าความผิดรายอื่นได้อกด้วยอันเป็นการสกัดกั้น
การกระท าความผิดและลดการแพร่ระบาดของการค้ายาเสพติดได้อย่างเห็นผล หลักเกณฑ์ส าคัญของมาตรา
3
๑๐๐/๒ มีอยู่ ๔ ประการ ดังนี้
ั
้
(๑) ผู้มีสิทธิยื่นค าร้องตามมาตรา ๑๐๐/๒ คือ พนักงานอยการโจทก์ หรือผู้กระท าผิดที่ถูกฟอง
เป็นจ าเลย ซึ่งรวมถึงทนายความของจ าเลย : เนื่องจากกระบวนการยุติธรรมของไทยใช้ระบบกล่าวหาที่ศาลไม่
มีหน้าที่แสวงหาพยานหลักฐานในคดี ดังนั้น หากต้องการให้ศาลใช้ดุลพนิจตามมาตรา ๑๐๐/๒ ก็จะต้องมี
ิ
การเสนอข้อเท็จจริงว่าผู้กระท าผิดได้ให้ข้อมูลที่ส าคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระท า
ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษให้ศาลทราบ ซึ่งผู้เสนอเป็นได้ทั้งพนักงานอยการหรือจ าเลย (รวมถึงทนาย
ั
จ าเลย) โดยเสนอข้อเท็จจริงดังกล่าวให้ปรากฏในค าฟ้อง ค าขอท้ายฟ้อง ค าให้การ ค าร้อง ค าแถลง หรือการสืบพยาน
(๒) ข้อมูลที่จะได้รับประโยชน์ตามมาตรา ๑๐๐/๒ คือ ข้อมูลที่ส าคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
ในการปราบปรามการกระท าความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ ซึ่งต้องพจารณาถึงประโยชน์สาธารณะที่จะ
ิ
ได้รับจากการปราบปรามยาเสพติดให้ได้สัดส่วนกับประโยชน์สาธารณะที่อาจต้องเสียไปจากการก าหนดโทษที่
ิ
น้อยลงให้ผู้กระท าผิดหรือจ าเลยผู้ให้ข้อมูล การพจารณานี้ประกอบไปด้วย (ก) การให้ข้อมูลโดยการให้ถ้อยค า
หรือให้ความร่วมมือ เป็นผลให้จับกุม ด าเนินคดี และลงโทษผู้กระท าความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในระดับที่สูงกว่า
ในระดับเดียวกัน หรือในระดับที่ต่ ากว่า (ข) การให้ข้อมูลที่เป็นผลให้มีการยึดหรืออายัดยาเสพติดหรือของกลาง
อื่นได้เพิ่มเติม รวมถึงอายัดทรัพย์สินอื่นที่พบจากการตรวจสอบทรัพย์สินในคดียาเสพติด และ (ค) การให้ขอมูล
้
ที่เป็นผลให้มีการท าลายเครือข่ายยาเสพติดหรือองค์กรอาชญากรรมโดยสามารถน าผู้กระท าผิดในระดับนายทุน
หรือตัวการใหญ่มาลงโทษได้
(๓) ผู้มีหน้าที่รับข้อมูลตามมาตรา ๑๐๐/๒ คือ พนักงานฝ่ายปกครองหรือต ารวจ หรือพนักงาน
สอบสวน ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานรัฐและมีอานาจหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมและประชาชน :
พนักงานฝ่ายปกครองหรือต ารวจมีหน้าที่สืบสวนคดีอาญาและแสวงหาข้อเท็จจริง รวมถึงพยานหลักฐานต่าง ๆ
เพอทราบถึงรายละเอยดแห่งความผิด แล้วจึงด าเนินการจับกุมและยึดของกลาง ซึ่งข้อมูลที่พนักงานฝ่ายปกครอง
ี
ื่
ื่
หรือต ารวจได้รับต้องเป็นประโยชน์ให้สามารถจับกุมผู้กระท าผิดรายอน ยึดหรืออายัดยาเสพติดหรือของกลาง
ได้เพิ่มเติม และยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่ได้จากการกระท าความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ส าหรับพนักงานสอบสวน
ื่
มีหน้าที่สอบสวนคดีอาญา โดยรวบรวมพยานหลักฐานและด าเนินการตามกฎหมายเพอทราบข้อเท็จจริงหรือ
ิ
พสูจน์ความผิด และเพอน าตัวผู้กระท าผิดมาลงโทษ ซึ่งข้อมูลที่พนักงานสอบสวนได้รับต้องเป็นประโยชน์ให้
ื่
สามารถรวบรวมพยานหลักฐานให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และครบถ้วนเพยงพอต่อการฟองคดี รวมถึง
้
ี
สามารถจับกุมผู้ร่วมกระทาผิด ยึดหรืออายัดยาเสพติดที่ถูกปกปิดซุกซอนไว้ได้เพมเติมจากของกลางในคดี หรือ
ิ่
่
ใช้เป็นพยานหลักฐานเพื่อด าเนินคดีกับผู้กระท าผิดรายอื่นที่ไม่เปิดเผยตัว
ิ
(๔) ผู้ใช้อานาจตามมาตรา ๑๐๐/๒ คือ ศาลยุติธรรม : ศาลมีอานาจพจารณาและใช้ดุลพนิจใน
ิ
การก าหนดโทษผู้ให้ข้อมูลนั้นน้อยกว่าอตราโทษขั้นต่ าที่ก าหนดไว้ได้ หากศาลเห็นว่าผู้นั้นได้ให้ข้อมูลที่ส าคัญ
ั
ี
ิ
ุ
3 ปัณณวิช ประจวบลาภ, ดลพนจของศาลในการลดโทษ : ศึกษากรณจ าเลยให้ข้อมูลส าคัญในคดยาเสพตด,
ิ
ี
ิ
หลักสูตรนิติศาสตร์มหาบัณฑิต, สาขานิติศาสตร์, คณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์, มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์, (2556), หน้า
๑๐๓-๑๐๕.