Page 39 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 39

26


                 และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระท าความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อพนักงาน

                 ฝ่ายปกครองหรือต ารวจ หรือพนักงานสอบสวน ดังนั้น เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ศาลจึงต้องน ามา
                             ิ
                 ประกอบการพจารณาก าหนดโทษให้แก่ผู้กระท าผิดที่ให้ข้อมูลนั้นด้วย โดยพจารณาถึงความน่าเชื่อถือในข้อมูล
                                                                                ิ
                 และการให้ความร่วมมือช่วยเหลือของผู้ต้องหาหรือจ าเลยที่ให้ข้อมูลนั้นประกอบกัน


                 ประเด็นทางกฎหมายเกี่ยวกับการใช้ดุลพินิจของศาลยุติธรรมตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.
                 ๒๕๒๒ มาตรา ๑๐๐/๒
                            ในการขอรับประโยชน์ตามมาตรา ๑๐๐/๒ นั้น เบื้องต้นผู้กระท าความผิดที่เป็นผู้ให้ข้อมูลต้องให้

                 ข้อมูลโดยสมัครใจ กล่าวคือ ผู้กระท าผิดเป็นผู้มีอานาจอสระในการตัดสินใจเองว่าจะให้ข้อมูลแก่เจ้าพนักงาน
                                                               ิ
                             ี
                 หรือไม่และเพยงใด โดยจะต้องแสดงข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานให้ปรากฏในส านวนอย่างแน่ชัดว่าตนเอง
                 เป็นผู้ให้ข้อมูลที่ส าคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระท าความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้
                 โทษนั้น โดยแยกเป็นข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานใน ๒ ส่วน คือ (๑) ส่วนที่เกี่ยวกับข้อมูลของตัวผู้กระท าผิด
                              ี
                 ต้องมีรายละเอยดของบุคคลผู้กระท าผิด วันเวลา สถานที่จับกุม พฤติการณ์แห่งคดีที่ถูกจับกุม ยาเสพติด
                                                                                       ื่
                                                                                                     ี
                 รวมถึงพยานหลักฐานการจับกุม และ (๒) ส่วนที่เกี่ยวกับข้อมูลของผู้กระท าผิดรายอน ต้องมีรายละเอยดของ
                 ผู้กระท าผิดรายอน รูปพรรณสัณฐาน ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อ และพฤติการณ์การจัดหา ได้มา หรือ
                               ื่
                                          ั
                 ซื้อขายยาเสพติดที่เกี่ยวข้อง อนแสดงถึงความสัมพนธ์ระหว่างผู้กระท าผิดที่ให้ข้อมูลกับผู้กระท าความผิดราย
                                                           ั
                                                                    4
                      ื่
                 อน เพอให้ตรวจสอบได้ว่าผู้กระท าความผิดเป็นผู้ให้ข้อมูลจริง  นอกจากนี้ ผู้กระท าผิดที่ให้ข้อมูลต้องเปิดเผย
                  ื่
                 ตัวในขณะที่ให้ข้อมูลต่อเจ้าพนักงานเพอบันทึกให้ปรากฏในเอกสารไว้จะได้เป็นพยานหลักฐานที่มีน้ าหนักให้
                                                  ื่
                 ศาลเชื่อได้ว่าเป็นผู้ให้ข้อมูลนั้นจริง หากมีการปกปิดชื่อผู้ให้ข้อมูล โดยระบุในบันทึกการจับกุมของผู้ร่วมกระท า
                 ความผิดรายอนว่า “ผู้ให้ข้อมูลคือ สายลับ พลเมืองดี หรือผู้ไม่ประสงค์ออกนาม” แม้จะด้วยเหตุเกรงกลัว
                             ื่
                 อานาจมืดหรืออทธิพลของผู้ที่ถูกเปิดเผยข้อมูลก็ตาม แต่ไม่ถือเป็นเหตุเพยงพอที่จะขอปิดบังตัวตน เนื่องจาก
                              ิ
                                                                             ี

                 ง่ายต่อการยกขึ้นอางในภายหลังและยากต่อการตรวจสอบความแท้จริงถูกต้อง ท าให้ข้อมูลที่ผู้กระท าผิดให้แก่
                                ้
                                                                                       ั
                 เจ้าพนักงานกลายเป็นข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งศาลจะไม่รับฟงว่าผู้กระท าผิดเป็นผู้ให้
                                                                                                ื่
                 ข้อมูลนั้น  อย่างไรก็ดี แม้ผู้กระท าผิดแสดงข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานให้ปรากฏในส านวนเพอเสนอต่อศาล
                         5
                 ตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว แต่ก็ใช่ว่าผู้กระท าผิดที่ให้ข้อมูลนั้นจะได้รับประโยชน์ตามมาตรา ๑๐๐/๒ ในทุกกรณี
                                                            ิ
                 จากประสบการณ์ท างานของผู้เขียนพบว่า ยังมีข้อพจารณาอกหลายประเด็นเกี่ยวกับการใช้ดุลพนิจของศาล
                                                                                                  ิ
                                                                    ี
                 ในเรื่องนี้ ซึ่งจะขอกล่าวในประเด็นหลัก ๓ ประเด็น กล่าวคือ
                            (ก) ระยะเวลาของการน าเสนอข้อมูลตามมาตรา ๑๐๐/๒
                            ส าหรับหลักเกณฑ์ในเรื่องระยะเวลาของการน าเสนอข้อมูลนั้น ตามมาตรา ๑๐๐/๒ ระบุเพยงว่า
                                                                                                       ี
                 “ถ้าศาลเห็นว่าผู้กระท าความผิดผู้ใดได้ให้ข้อมูลที่ส าคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการ
                 กระท าความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อพนักงานฝ่ายปกครอง หรือต ารวจ หรือพนักงานสอบสวน ศาลจะ
                                   ั
                 ลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าอตราโทษขั้นต่ าที่ก าหนดไว้ส าหรับความผิดนั้นก็ได้” โดยไม่ได้ก าหนดไว้อย่างชัดเจนว่า
                 ต้องยื่นค าร้องเพอขอรับประโยชน์ตามมาตรา ๑๐๐/๒ ภายในระยะเวลาเท่าใด แต่จากที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าผู้ที่
                               ื่

                       4  ค าพิพากษาฎีกาที่ ๑๙๖๗๓/๒๕๕๕.
                       5  ค าพิพากษาฎีกาที่ ๑๐๗๗๓/๒๕๕๙.
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44