Page 560 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 560
๕๔๘
ิ
ิ่
แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพมเติมประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๔) พ.ศ. ๒๕๔๘ ใน
๓
ปัจจุบันศาลฎีกายังคงยึดถือหลักการดังกล่าว ดังที่ได้วินิจฉัยไว้ในค าพิพากษาฎีกาที่ ๒๔๑๒/๒๕๖๒
ิ่
ื่
จะเห็นได้ว่า แม้จะมีการแก้ไขเพมเติมมาตรา ๔๔/๑ ตั้งแต่ปี ๒๕๔๘ เพอให้ผู้เสียหายด าเนินคดี
่
แพงควบคู่ไปกับคดีอาญาซึ่งจะท าให้คดีเสร็จไปโดยรวดเร็ว และท าให้ผู้เสียหายประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ต้อง
ใช้เวลากว่าสิบปีที่กฎหมายดังกล่าวจะถูกตีความให้ตรงตามเจตนารมณ์ในการแก้ไขกฎหมาย ซึ่งการ
ิ
ตีความค าว่า "ผู้เสียหาย" ตามค าพพากษาฎีกาดังกล่าว ผู้เสียหายแต่ละรายมีจุดเกาะเกี่ยวที่เหมือนกันโดย
ั
เป็นผู้เสียหายในคดีที่พนักงานอยการยื่นฟอง แต่หากในคดีดังกล่าวมีบุคคลผู้ได้รับผลกระทบจากการ
้
ั
้
กระท าของผู้กระท าความผิด โดยบุคคลนั้นมิได้เป็นผู้เสียหายในคดีที่พนักงานอยการยื่นฟอง เช่น คดีที่
ั
ื่
จ าเลยขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อนถึงแก่ความตายหรือได้รับอนตรายสาหัส และรถคันที่จ าเลยขับได้รับ
ความเสียหาย ซึ่งรถเป็นของผู้ร้อง แต่ผู้ร้องมิใช่ผู้มีอ านาจจัดการแทนผู้ตายและมิใช่ผู้ที่ได้รับอันตรายสาหัส
ผู้ร้องจึงมิได้เป็นผู้เสียหายในคดีนี้ ดังนี้ ผู้ร้องย่อมได้รับความเสียหายจากการกระท าของจ าเลย ท าให้
๔
ผู้เขียนเกิดความสนใจในการศึกษาว่า เมื่อศาลฎีกาตีความค าว่า ผู้เสียหายตามมาตรา ๔๔/๑ แตกต่างไป
จากเดิม บุคคลดังกล่าวจะสามารถยื่นค าร้องขอเรียกค่าสินไหมทดแทนเข้าไปในคดีอาญาได้หรือไม่ รวมทั้ง
ื่
ในคดีอาญาที่ผู้กระท าความผิดกระท าไปโดยมีบุคคลอนที่กฎหมายบังคับให้ต้องร่วมรับผิดด้วย เพราะ
ั
ตนเองมีความเกี่ยวพนกับผู้กระท าความผิดหรือผู้ท าละเมิด ทั้งจากความสัมพนธ์ทางครอบครัว สังคม
ั
หรือตามที่กฎหมายก าหนด ผู้เสียหายจะเรียกให้บุคคลดังกล่าวเข้ามาในคดีเพอร่วมกับผู้กระท าความผิด
ื่
รับผิดต่อผู้เสียหายไปในคราวเดียวกันโดยอาศัยเครื่องมือทางกฎหมายที่มีอยู่ได้หรือไม่
แนวคิดทฤษฎี และหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ื่
เพอให้กระบวนการวิเคราะห์เป็นระบบ บทความนี้จะเริ่มต้นจากการศึกษาหลักการในการขอ
ค่าสินไหมทดแทนในคดีอาญา ผู้ที่มีสิทธิยื่นค าร้องขอค่าสินไหมทดแทนในคดีอาญา ผู้ที่ต้องร่วมรับผิดกับ
ผู้ท าละเมิด และการเรียกบุคคลภายนอกเข้ามาในคดี ความหมายของคดีแพงที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา
่
รวมถึงประสบการณ์การท างานที่ผ่านมาของผู้เขียน เพอน ามาวิเคราะห์และน าเสนอแนวคิดความคาดหวัง
ื่
ต่อกระบวนการยื่นค าร้องขอค่าสินไหมทดแทนในคดีอาญา
๓ ค ำพิพำกษำฎีกำที่ ๒๔๑๒/๒๕๖๒ กำรพิจำรณำว่ำผู้ใดมีสิทธิเรียกเอำค่ำสินไหมทดแทน ต้องพิจำรณำจำกสิทธ ิ
ในทำงแพ่ง ท ำให้ไม่จ ำเป็นต้องเป็นผู้เสียหำยโดยนิตินัย
๔ ค ำพิพำกษำฎีกำที่ ๒๙๕/๒๕๕๕ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจ ำเลยในควำมผิดฐำนกระท ำโดยประมำทเป็นเหตุให้
ผู้อื่นถึงแก่ควำมตำย และได้รับอันตรำยแก่กำย ตำม ป.อ. มำตรำ ๒๙๑ และ ๓๙๐ ผู้ร้องได้รับควำมเสียหำยเพรำะรถยนต์
ที่เฉี่ยวชนกระเด็นมำชนรถยนต์ของผู้ร้องที่จอดอยู่ ผู้ร้องไม่ใช่ผู้มีอ ำนำจจัดกำรแทนผู้ตำยหรือเป็นผู้ได้รับอันตรำยแก่กำย
ผู้ร้องไม่ใช่ผู้เสียหำยในควำมผิดดังกล่ำว ส่วนควำมผิดตำม พ.ร.บ.จรำจรทำงบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มำตรำ ๓๙, ๔๐, ๔๓, ๑๕๑,
และ ๑๕๗ เป็นควำมผิดต่อรัฐ รัฐเท่ำนั้นเป็นผู้เสียหำย ผู้ร้องไม่ใช่ผู้เสียหำยในควำมผิดดังกล่ำวเช่นเดียวกัน ผู้ร้องจึงไม่มี
อ ำนำจยื่นค ำร้องขอให้จ ำเลยชดใช้ค่ำสินไหมทดแทน ตำม ป.วิ.อ. มำตรำ ๔๔/๑