Page 563 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 563
๕๕๑
้
วรรคหนึ่ง เพราะเป็นคดีที่ผู้เสียหายเป็นโจทก์ยื่นฟองคดีอาญาต่อศาล มิใช่คดีที่ พนักงานอัยการเป็นโจทก์
้
ทั้งผู้เสียหายสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนในคดีอาญาที่ตนฟองได้
๑.๒ ผู้เสียหายได้รับความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือได้รับความเสื่อมเสียต่อ
เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน
ั
สิทธิเรียกร้องเอาค่าสินไหมทดแทนเกิดขึ้นเพราะเหตุที่ผู้เสียหายได้รับอนตรายแก่ชีวิต
ร่างกาย จิตใจ หรือได้รับความเสื่อมเสียต่อเสรีภาพในร่างกาย ชื่อเสียง หรือได้รับความเสียหายทาง
ทรัพย์สินในคดีอาญา เป็นหลักการเดียวกันกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ที่บัญญัติว่า
ื่
"ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ท าต่อบุคคลอนโดยผิดกฎหมายให้เข้าเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี
อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นท าละเมิดจ าต้องใช้ค่าสินไหม
ทดแทนเพื่อการนั้น"
๑.๓ ความเสียหายเนื่องจากการกระท าความผิดของจ าเลย
ความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ชีวิต ร่างกาย จิตใจ เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของ
ผู้เสียหาย จะต้องเกิดขึ้นเนื่องมาจากการกระท าความผิดของจ าเลย กล่าวคือ ต้องเป็นผลโดยตรงของการ
๘
กระท าความผิดของจ าเลย
๑.๔ ยื่นค าร้องก่อนเริ่มสืบพยาน หรือก่อนศาลวินิจฉัย และค าร้องถือเป็นค าฟ้อง
ตามมาตรา ๔๔/๑ วรรคสอง ก าหนดให้ผู้เสียหายต้องยื่นค าร้องขอก่อนเริ่มสืบพยาน ใน
ิ
กรณีที่ไม่มีการสืบพยานให้ยื่นค าร้องก่อนศาลวินิจฉัยชี้ขาดคดี ปกติการพจารณาพพากษาจะต้องสืบ
ิ
พยานหลักฐาน แต่ในคดีอาญาหากเป็นคดีที่มีข้อหาซึ่งกฎหมายมิได้ก าหนดอตราโทษอย่างต่ าไว้ให้จ าคุก
ั
ตั้งแต่ห้าปีขึ้นไป หรือโทษสถานที่หนักกว่านั้น เมื่อจ าเลยให้การรับสารภาพ ศาลจะพิพากษาตัดสินคดีทันที
โดยไม่สืบพยานหลักฐานต่อไป เพราะถือว่าจ าเลยยอมรับข้อเท็จจริงตามค าฟองของพนักงานอยการ
้
ั
กฎหมายจึงแบ่งระยะเวลาการยื่นค าร้องเป็น ๒ กรณี
้
ื่
ค าร้องถือเป็นค าฟ้องเพอป้องกันไม่ให้ผู้เสียหายน ามูลคดีเดียวกันไปฟองคดีแพ่งอีก
๑.๕ ผู้เสียหายอยู่ในฐานะเป็นโจทก์ในคดีแพ่ง
มาตรา ๔๔/๑ ใช้ถ้อยค าว่า ถ้าผู้เสียหายมีสิทธิที่จะเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนเพราะเหตุ
ั
ได้รับอนตรายแก่ชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือได้รับความเสื่อมเสียต่อเสรีภาพในร่างกาย ชื่อเสียง หรือได้รับ
ความเสียหายในทางทรัพย์สิน ส่วนมาตรา ๔๓ ใช้ถ้อยค าว่า ถ้าผู้เสียหายมีสิทธิที่จะเรียกร้องทรัพย์สินหรือ
ราคาทรัพย์สินที่เขาสูญเสียไปเนื่องจากการกระท าผิดคืน ซึ่งมีความหมายเช่นเดียวกัน กล่าวคือ หาก
ผู้เสียหายมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพราะสูญเสียทรัพย์สินหรือได้รับความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย
จิตใจ เสรีภาพ ชื่อเสียง ย่อมมีสิทธิเรียกร้องให้ผู้กระท าชดใช้ได้
ในทางกลับกันหากเป็นกรณีที่ผู้เสียหายไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนหรือไม่มีสิทธิ
เรียกทรัพย์คืน ผู้เสียหายย่อมไม่มีสิทธิเรียกร้องให้ผู้กระท าชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามมาตรา ๔๔/๑ ได้
ั
๘ ธำนิศ เกศวพิทกษ์, ค ำอธิบำยประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมอำญำ ภำค ๑ - ๒ (มำตรำ ๑ - ๑๕๖), น.๗๖๕