Page 567 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 567

๕๕๕



                                      ๓.๒.๒  โดยค าสั่งของศาล เมื่อศาลนั้นเห็นสมควรหรือเมื่อคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

                 มีค าขอในกรณีที่กฎหมายบังคับให้เข้ามาในคดี หรือศาลเห็นจ าเป็นที่จะเรียกบุคคลภายนอกเข้ามาในคดี
                 เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม

                        ๔.  การร้องสอดในคดีอาญา

                        ในคดีอาญาที่มีผู้เสียหาย พนักงานอัยการและผู้เสียหายย่อมมีผลประโยชน์ร่วมกันในมูลความแห่ง
                                                ิ
                 คดี แต่ตามประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญาไม่มีบทบัญญัติเรื่องร้องสอดหรือการเรียก
                                                          ี
                                                                                                 ั
                 บุคคลภายนอกเข้ามาเป็นคู่ความในคดี คงมีแต่เพยงบทบัญญัติที่ให้สิทธิผู้เสียหายหรือพนักงานอยการเข้า
                 เป็นโจทก์ร่วมในคดีอาญา และการยื่นค าร้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเข้าไปในคดีอาญาเท่านั้น ซึ่งการเข้า
                 เป็นโจทก์ร่วมในคดีอาญามี ๒ กรณี คือ ผู้เสียหายร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการตามประมวล

                 กฎหมายวิธีพจารณาความอาญา มาตรา ๓๐ และพนักงานอยการร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับผู้เสียหาย
                                                                    ั
                            ิ
                 ตามมาตรา ๓๑
                        สิทธิการขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีอาญามีได้เพียง ๒ กรณีดังกล่าวเท่านั้น สิทธิการขอเข้าร่วมเป็น
                 โจทก์ในคดีอาญานอกจากทั้งสองกรณีดังกล่าวจึงไม่อาจมีได้  ดังนั้น ในคดีที่มีผู้เสียหายหลายคน หาก
                                                                    ๑๓
                                     ้
                                                                                                ๑๔
                                                       ี
                 ผู้เสียหายคนใดคนหนึ่งฟองคดีแล้ว ผู้เสียหายอกคนหนึ่งไม่อาจยื่นค าร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ได้  และจะ
                 อาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๕๗ (๒) ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ
                 อาญา มาตรา ๑๕ มาอนุโลมใช้ในกรณีนี้ไม่ได้ เพราะกฎหมายบัญญัติไว้เป็นกรณีเฉพาะแล้วตามมาตรา

                 ๓๐, ๓๑
                        ๑๕
                                                                                   ้
                                                                     ั
                        หากเป็นคดีที่มีผู้เสียหายหลายคน แต่คดีนั้นพนักงานอยการเป็นโจทก์ฟองคดี ผู้เสียหายแต่ละคน
                 ย่อมมีสิทธิยื่นค าร้องเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการได้ตามมาตรา ๓๐ แต่ผู้เสียหายที่จะมีสิทธิเข้าเป็น
                 โจทก์ร่วมกับพนักงานอยการเฉพาะข้อหาที่เป็นผู้เสียหายเท่านั้น  และผู้เสียหายจะต้องเป็นผู้เสียหายโดย
                                    ั
                                                            ั
                 นิตินัย จึงจะมีสิทธิเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอยการ หากจ าเลยถูกฟองในความผิดฐานกระท าโดย
                                                                               ้
                                    ื่

                 ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อนถึงแก่ความตาย แต่ผู้ตายมีส่วนประมาทอยู่ด้วย มารดาของผู้ตายก็ไม่มีอานาจ
                                  ี
                                                        ๑๖
                 จัดการแทน และไม่มอานาจเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้  บุคคลที่สมัครใจเข้าวิวาทต่อสู้ท าร้ายร่างกายซึ่งกันและ

                 กัน ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย ไม่มีสิทธิร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม  บุคคลที่ยินยอมให้ผู้อนกระท าความผิด
                                                                                         ื่
                                                                     ๑๗
                 ไม่เป็นผู้เสียหายโดยนิตินัย ไม่มีสิทธิเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการ
                                                                            ๑๘





                        ๑๓   ธำนิศ เกศวพิทักษ์, อ้ำงแล้ว เชิงอรรถที่ ๘

                        ๑๔   ค ำพิพำกษำฎีกำที่ ๓๓๒๐/๒๕๒๘
                        ๑๕   ค ำพิพำกษำฎีกำที่ ๒๙๒๕/๒๕๒๙

                        ๑๖   ค ำพิพำกษำฎีกำที่ ๗๖๔๐/๒๕๕๐
                        ๑๗   ค ำพิพำกษำฎีกำที่ ๓๑๐๐/๒๕๔๗
                        ๑๘   ค ำพิพำกษำฎีกำที่ ๖๕๘/๒๕๑๓, ๑๕๒๓๒/๒๕๕๓, ๑๙๑๓/๒๕๔๖
   562   563   564   565   566   567   568   569   570   571   572