Page 576 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 576

๕๖๔



                                                      ่
                                ิ
                 รวมอยู่ด้วย การพสูจน์ข้อเท็จจริงในส่วนแพงถึงเรื่องกรรมสิทธิ์หรือค่าเสียหาย ย่อมรวมอยู่ในการพสูจน์
                                                                                                    ิ
                 ข้อเท็จจริงของคดีอาญาโดยตรง เพราะกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินหรือค่าเสียหายเป็นผลโดยตรงจากการท า
                 ละเมิดในมูลทางอาญา การพสูจน์ถึงกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินหรือค่าเสียหายในคดีอาญา จึงไม่มีความยุ่งยาก
                                         ิ
                                                                                                ี
                 ซับซ้อน และสามารถวินิจฉัยไปพร้อมกันได้  หากตีความขยายค าว่า "ผู้เสียหาย" ออกไปโดยเพยงแต่เป็น
                 ผู้เสียหายในทางแพงก็สามารถยื่นค าร้องได้ และควรถือว่าเป็นผู้เสียหายที่มีสิทธิยื่นค าร้องขอให้ชดใช้
                                  ่
                 ค่าสินไหมทดแทนได้ตามมาตรา ๔๔/๑ มิใช่เรื่องบุคคลภายนอกร้องสอดเข้าไปในคดี จะท าให้ผู้เสียหายที่

                 ได้รับความเสียหายจากการกระท าของจ าเลยได้รับการเยียวยาโดยเร็ว
                        หากตัวบทกฎหมายไม่สอดคล้องกับหลักความยุติธรรมหรือเจตนารมณ์ของกฎหมาย ควรจะเปิด

                 ช่องให้ศาลได้แปลกฎหมายให้เหมาะสมกบเหตุการณ์แต่ละกรณี และควรให้ศาลได้ใช้ดุลพนิจในการตัดสิน
                                                                                           ิ
                                                   ั
                 คดีให้มาก ดังนั้น ถ้าการยื่นค าร้องขอให้จ าเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามตัวอย่างที่กล่าวมา หากผู้ร้อง
                 กล่าวถึงการกระท าของจ าเลยที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา ซึ่งการกระท าของจ าเลยย่อมจะต้องเป็นการ

                                                                                         ้
                                                                                                     ื่
                 กระท าตามค าฟองของพนักงานอยการที่ท าให้เกิดผลเสียหายขึ้น โดยผู้ร้องมิได้กล่าวอางการกระท าอนๆ
                              ้
                                             ั
                 ของจ าเลย หรือยกข้อเท็จจริงอื่น หรือเพิ่มเติมเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง ค าร้องขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
                                               ้
                                                                                                      ิ
                 ของผู้ร้องย่อมไม่ขัดหรือแย้งกับค าฟองคดีอาญา จึงไม่ต้องห้ามตามมาตรา ๔๔/๑ หากให้ศาลใช้ดุลพนิจ
                 รับค าร้องเช่นว่านี้ไว้พิจารณา  ย่อมจะท าให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการกระท าของจ าเลยได้รับการเยียวยา
                 ไปโดยเร็ว  ลดจ านวนคดีแพงที่จะเกิดขึ้นตามมา ลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้เสียหายที่จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
                                        ่
                 ในการว่าจ้างทนายความ  ค่าเดินทาง และช่วยให้ประหยัดเวลา ท าให้คดียุติไปด้วยความเป็นธรรม

                                                      ิ่
                                                                             ิ
                 ตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติแก้ไขเพมเติมประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๔)
                 พ.ศ. ๒๕๔๘
                                ่
                                                                                        ื่
                                                                    ิ
                        ๒. คดีแพงที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาเป็นบทบัญญัติพเศษที่มีเจตนารมณ์ เพอคุ้มครองสิทธิของ
                 ผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมให้ได้รับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนโดยสะดวก รวดเร็ว ประหยัด
                 และเป็นธรรม แต่ในบางครั้งผู้กระท าความผิดอยู่ในฐานะที่ไม่มีก าลังความสามารถในการชดใช้ค่าสินไหม

                                                                                           ื่
                 ทดแทน ไม่ว่าจะด้วยอายุ หรือฐานะทางเศรษฐกิจ เช่น ผู้เยาว์ขับรถประมาทชนบุคคลอนจนถึงแก่ความ
                 ตาย หรือกรณีลูกจ้างขับรถไปในทางการที่จ้าง แล้วเกิดเหตุประมาทชนบุคคลอื่นจนถึงแก่ความตาย ผู้เยาว์

                 หรือลูกจ้างอาจจะไม่มีความสามารถทางเศรษฐกิจเพยงพอที่จะช าระค่าเสียหายให้แก่ฝ่ายผู้ตายได้ แต่บิดา
                                                            ี
                 มารดา หรือนายจ้างของลูกจ้างเป็นผู้มีก าลังความสามารถในการช าระค่าเสียหาย หรือหากรถคันที่ผู้เยาว์

                 หรือลูกจ้างขับได้มีการท าประกันภัยไว้ บริษัทผู้รับประกันภัยสามารถให้ความคุ้มครองความเสียหายได้

                 หากบิดา มารดา หรือบริษัทผู้รับประกันภัยเข้ามาในคดีได้ย่อมจะเป็นประโยชน์แก่ทั้งจ าเลยและผู้เสียหาย
                 แต่กรณีเช่นนี้ ศาลฎีกาเคยมีค าวินิจฉัยว่า บริษัทผู้รับประกันภัยเป็นบุคคลภายนอกที่อาจต้องรับผิดกับ

                                                                                                       ั
                                ่
                 จ าเลยในส่วนแพงเท่านั้น ไม่ใช่ผู้กระท าความผิดในคดีนี้ที่จะต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน อน
   571   572   573   574   575   576   577   578   579   580   581