Page 574 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 574
๕๖๒
มีหลักความยุติธรรมนอกเหนือไปจากหลักกฎหมาย และกฎหมายควรจะสอดคล้องกับความยุติธรรม จึงไม่
ควรบัญญัติกฎหมายให้ตายตัวจนเกินไป ควรจะเปิดช่องให้ศาลได้แปลกฎหมายให้เหมาะสมกับเหตุการณ์
๓๐
แต่ละกรณี และควรให้ศาลได้ใช้ดุลพินิจในการตัดสินคดีให้มาก
บทวิเคราะห
์
๑. ผู้เขียนน าหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาแสดงพอสังเขป เพอให้เห็นว่ามีกฎหมายเรื่องใดที่
ื่
เกี่ยวข้องซึ่งจะได้น ามาวิเคราะห์และศึกษา จากแนวคิดในการเรียกค่าสินไหมทดแทนในคดีอาญาของ
ประเทศองกฤษและฝรั่งเศสต่างมีแนวความคิดที่จะอานวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียหาย เพอให้ผู้เสียหายมี
ื่
ั
โอกาสเข้าถึงกระบวนพจารณาได้โดยง่าย ท าให้ได้รับการเยียวยาความเสียหายโดยเร็ว ในประเทศไทย
ิ
ื่
ยอมรับหลักการดังกล่าวโดยบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ รวมถึงการแก้ไขเพมเติมกฎหมายเพอให้ผู้เสียหายยื่น
ิ่
ค าร้องขอค่าสินไหมทดแทนในคดีอาญาได้ ซึ่งในช่วงแรกของการแก้ไขเพมเติมประมวลกฎหมายวิธี
ิ่
ิ
พจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๔) พ.ศ. ๒๕๔๘ การเป็นผู้เสียหายที่จะมีสิทธิยื่นค าร้องขอเรียกค่าสินไหม
ทดแทนในคดีอาญา ถือหลักความเป็นผู้เสียหายเช่นเดียวกับการใช้สิทธิร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับ
ั
พนักงานอยการ โดยจะต้องเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัย ต่อมาศาลฎีกาตีความคาว่า "ผู้เสียหาย" ตามประมวล
ิ
กฎหมายวิธีพจารณาความอาญา มาตรา ๔๔/๑ ให้มีความหมายแตกต่างจากค าว่า "ผู้เสียหาย" ตามที่
บัญญัติไว้ในมาตรา ๒ (๔) โดยมุ่งเน้นให้ผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายในทางแพงมีสิทธิยื่นค าร้องขอเรียก
่
ค่าสินไหมทดแทนในคดีอาญาได้ ส่วนผู้เสียหายจะได้รับชดใช้ค่าเสียหายเพยงใด หรือผู้เสียหายมีส่วนใน
ี
การกระท าความผิด หรือก่อให้จ าเลยกระท าความผิด ศาลจะพจารณาก าหนดค่าเสียหายตามพฤติการณ์
ิ
และความร้ายแรง รวมถึงฝ่ายใดมีส่วนท าความผิดอย่างใดอย่างหนึ่งก่อให้เกิดความเสียหายมากน้อยกว่า
กันเพยงใด ซึ่งผลจากการตีความดังกล่าว ท าให้ผู้เสียหายที่มิใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย สามารถได้รับการ
ี
เยียวยาค่าเสียหายในทางแพ่งได้โดยเร็ว คดีเสร็จไปพร้อมกับคดีอาญาโดยไม่ต้องไปฟ้องคดีแพ่งต่างหาก อัน
เป็นการพัฒนาการตีความตัวบทกฎหมายให้ตรงตามเจตนารมณ์
อย่างไรก็ตาม แม้ผู้เสียหายที่จะมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนในคดีอาญา ไม่จ าต้องเป็นผู้เสียหาย
โดยนิตินัย แต่ยังมีการตีความจ ากัดว่าจะต้องเป็นคดีทพนักงานอัยการเป็นโจทก์และผู้เสียหายที่มีสิทธิยื่นค า
ี่
ร้องต้องเป็นผู้เสียหายที่ปรากฏอยู่ในค าฟองของโจทก์เท่านั้น และตามมาตรา ๔๔/๑ วรรคสาม ห้าม
้
ผู้เสียหายเสนอประเด็นอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องค่าสินไหมทดแทนเข้ามาในคดีหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อหา
ิ
ตามค าฟองของโจทก์เพอไม่ให้คดีต้องล่าช้าออกไป แต่เมื่อพจารณาการตีความค าว่า "ผู้เสียหาย"
ื่
๓๑
้
ของศาลฎีกาที่ค านึงถึงความเป็นผู้เสียหายในทางแพง จะเห็นว่าการกระท าความผิดทางอาญาของจ าเลย
่
บางครั้งมุ่งให้เกิดความเสียหายต่อผู้เสียหายในคดีโดยตรง แต่ผลแห่งการกระท าก่อให้เกิดความเสียหายแก่
๓๐ โสภณ รัตนำกร บทบัณฑิตย์ เล่มที่ ๒๕ ตอน ๒, มิถุนำยน ๒๕๑๑ พิมพ์ในรวมผลงำนทำงวิชำกำรของ
ศำสตรำจำรย์โสภณ รัตนำกร ส ำนักงำนศำลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๖๑ น.๙
๓๑ อ้ำงแล้ว เชิงอรรถที่ ๘ น.๗ และ ๑๒