Page 633 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 633
621
่
๑
พิจารณาความแพง อีกทั้ง พระราชบัญญัตินี้ไม่ได้เพียงแต่ก าหนดแนวทางในการด าเนินกระบวนพิจารณา
ี
แต่เพยงอย่างเดียว แต่ยังมีรายละเอียดที่เป็นกฎหมายสารบัญญัติด้วย ซึ่งเป็นการแก้ไขหรือยกเว้นไม่ให้น า
ื้
หลักกฎหมายบางเรื่องในประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย์มาใช้กับผู้บริโภค โดยมีที่มาเนื่องจากพนฐาน
่
ของผู้บริโภคส่วนมากมักมีอานาจต่อรองหรือฐานะทางเศรษฐกิจด้อยกว่าผู้ประกอบธุรกิจ ทั้งยังขาดความรู้
และความเข้าใจเกี่ยวกับการได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม ดังนั้น เมื่อเกิดปัญหาขึ้น
ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม ประกอบกับกฎหมายหลายเรื่องที่บัญญัติอยู่ในประมวลกฎหมาย
แพงและพาณิชย์ มีลักษณะที่เหมาะสมกับกรณีที่คู่สัญญามีอานาจในการต่อรองเท่าเทียมกันมากกว่า
่
กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคในส่วนสารบัญญัตินี้ จึงมีเจตนารมณ์หลักอยู่ที่การช่วยเหลือผู้บริโภคไม่ให้ถูก
ผู้ประกอบธุรกิจเอารัดเอาเปรียบเพราะขาดความรู้ในเรื่องของคุณภาพของสินค้าหรือบริการ ตลอดจน
เทคนิคการตลาดของผู้ประกอบธุรกิจ ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย ทั้งอ านาจในการต่อรองในการเข้าท าสัญญา
๒
กับผู้ประกอบธุรกิจเพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการ และพระราชบัญญัตินี้ยังถือเป็นมิติใหม่ในการคุ้มครอง
ี่
ผู้บริโภคที่น าหลักกฎหมายว่าด้วยความรับผิดโดยเคร่งครัด (Strict Liability) มาปรับใช้ เพอเอาผิดกับ
ื่
ผู้ประกอบธุรกิจที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้บริโภค เพอให้ผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายได้รับ
การแก้ไขเยียวยาด้วยความรวดเร็ว ประหยัด และมีประสิทธิภาพ และในขณะเดียวกันก็เป็นการส่งเสริมให้
ผู้ประกอบธุรกิจหันมาให้ความส าคัญต่อการพัฒนาคุณภาพของสินค้าและบริการให้ดียิ่งขึ้นด้วย
อย่างไรก็ดีแม้พระราชบัญญัติดังกล่าวจะบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๑ แต่ก็ยังคงมี
ปัญหาที่น่าสนใจเห็นควรต้องศึกษาหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับขอบเขตของความหมาย
ของคู่สัญญาหรือค านิยามของฝ่ายผู้ประกอบธุรกิจซึ่งควรต้องมีหน้าที่รับผิดต่อผู้บริโภค ภาระในการพิสูจน์
ื่
ตลอดจนวิธีการเยียวยาความเสียหายให้แก่ผู้บริโภค ในปัญหาเกี่ยวกับความรับผิดเพอความช ารุดบกพร่อง
ของสินค้า ดังนั้น เพอให้มาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคสามารถบังคับใช้ได้อย่าง
ื่
เป็นรูปธรรมและสร้างแนวคิดในความคุ้มครองให้แก่ผู้บริโภคได้มากที่สุด จึงจ าเป็นที่ต้องวิเคราะห์
ปัญหาต่าง ๆ ข้างต้นเพอให้เกิดประโยชน์ในการคุ้มครองผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจากการท าละเมิด
ื่
หรือการท าสัญญากับผู้ประกอบธุรกิจ และเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับการเยียวยาอย่างมีประสิทธิภาพ
๑ นนทวัชร์ นวตระกูลพิสุทธิ์, กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค, พิมพ์ครั้งที่ ๑, (กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ธรรมศาสตร์,
๒๕๖๐), น. ๑๗๒.
๒ เสกสรร ชาญวิธะเสนา, (๒๕๕๙), ปัญหาที่เกิดจากการบังคับใช้กฎหมาย, (การอบรมหลักสูตร “ผู้พิพากษา
ผู้บริหารในศาลชั้นต้น” รุ่นที่ ๑๕ สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ส านักงานศาลยุติธรรม), น. ๓.