Page 635 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 635
623
ื่
หรือผู้ซึ่งได้รับการเสนอหรือชักชวนจากผู้ประกอบธุรกิจเพอให้ซื้อสินค้าหรือรับบริการ และหมายความรวมถึง
ผู้ใช้สินค้าหรือผู้ได้รับบริการจากผู้ประกอบธุรกิจโดยชอบ แม้ไม่ได้เป็นผู้เสียค่าตอบแทนก็ตาม จึงสามารถ
แยกบุคคลที่เป็นผู้บริโภคตามบทนิยามนี้ออกได้เป็น ๓ จ าพวก คือ
๑. ผู้ซื้อหรือผู้ได้รับบริการจากผู้ประกอบธุรกิจ ค าว่า “ซื้อ” หมายความรวมถึง
ื่
เช่า เช่าซื้อ หรือได้มาไม่ว่าด้วยประการใด ๆ โดยให้ค่าตอบแทนเป็นเงินหรือผลประโยชน์อย่างอน
ค าว่า “บริการ” หมายความว่า การรับจัดท าการงาน การให้สิทธิใด ๆ หรือการให้ใช้หรือให้ประโยชน์
ื่
ในทรัพย์สินหรือกิจการใด ๆ โดยเรียกค่าตอบแทนเป็นเงินหรือผลประโยชน์อน แต่ไม่รวมถึง
การจ้างแรงงานตามกฎหมายแรงงาน ดังนั้น การจะเป็นผู้บริโภคในกลุ่มนี้ต้องเป็นกรณีที่มีการ
เสียค่าตอบแทนหรือผลประโยชน์อย่างอื่นให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจ
๒. ผู้ซึ่งได้รับการเสนอหรือการชักชวนจากผู้ประกอบธุรกิจเพื่อให้ซื้อสินค้าหรือรับบริการ
ซึ่งการที่พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคฯ จัดบุคคลกลุ่มนี้เป็นผู้บริโภคท าให้บุคคลเหล่านี้ได้รับ
ความคุ้มครองตามกฎหมายและหากได้รับความเดือดร้อนก็สามารถร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการคุ้มครอง
ผู้บริโภคให้ตรวจสอบการกระท าอันเป็นการละเมิดสิทธิของผู้บริโภคได้ ถึงแม้ว่าบุคคลเหล่านี้จะยังไม่ได้ซื้อ
หรือใช้สินค้าหรือบริการแต่อย่างใด และเมื่อมีการโยงค านิยามค าว่า “ผู้บริโภค” ตามกฎหมายดังกล่าวมาใช้
บุคคลเหล่านี้จึงอยู่ในความหมายของค าว่า “ผู้บริโภค” ตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภคฯ ด้วย
๓. ผู้ใช้สินค้าหรือผู้ได้รับบริการจากผู้ประกอบธุรกิจโดยชอบแม้ไม่ได้เป็นผู้เสีย
ค่าตอบแทนก็ตาม บุคคลที่จะเป็นผู้บริโภคในกลุ่มนี้จะต้องได้ใช้สินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบธุรกิจ
โดยชอบ เช่น บุคคลในครอบครัวหรือพนักงานในองค์กรต่าง ๆ ที่หัวหน้าครอบครัวหรือนายจ้างเป็นผู้ซื้อ
๗
หรือจัดหาสินค้าหรือบริการมาให้ใช้ แม้จะไม่ได้เสียค่าตอบแทนด้วยตนเองก็ถือว่าเป็นผู้บริโภค
ส่วนพระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ. ๒๕๕๑
๘
ั
ได้นิยามค าว่า “ผู้เสียหาย” ไว้ว่าหมายถึง ผู้ได้รับความเสียหายอนเกิดจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย
ซึ่งผู้เสียหายตามพระราชบัญญัตินี้ ก็ถือว่าเป็นผู้บริโภคตามความหมายของพระราชบัญญัติวิธีพจารณา
ิ
คดีผู้บริโภคฯ ด้วยเช่นกัน
ิ
ส าหรับผู้ประกอบธุรกิจนั้น พระราชบัญญัติวิธีพจารณาคดีผู้บริโภคฯ ได้นิยามค าว่า “ผู้ประกอบ
ธุรกิจ” ไว้ว่า ผู้ประกอบธุรกิจตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค และให้หมายความรวมถึง
ผู้ประกอบการตามกฎหมายที่เกี่ยวกับความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัยด้วย
ซึ่งตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคฯ มาตรา ๓ ได้ให้ค านิยาม “ผู้ประกอบธุรกิจ” ไว้ว่าหมายถึง ผู้ขาย
ื่
ผู้ผลิตเพอขาย ผู้สั่งหรือน าเข้ามาในราชอาณาจักร ผู้ขายหรือผู้ซื้อเพอขายต่อซึ่งสินค้าหรือผู้ให้บริการ
ื่
และหมายความรวมถึงผู้ประกอบกิจการโฆษณาด้วย ดังนั้น ผู้ประกอบธุรกิจจึงหมายถึงบุคคลดังต่อไปนี้
๗ ชาญณรงค์ ปราณีจิตต์, “ลักษณะคดีผู้บริโภค,” ค าอธิบายพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ.
๒๕๕๑, ส านักงานศาลยุติธรรม, น. ๕๗, ๑๓๒
๘ พระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ. ๒๕๕๑ “ผู้เสียหาย”