Page 849 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 849
๘๓๗
หรือลบล้างความชั่วที่เกิดขึ้น โดยโทษที่จะได้รับควรจะเท่ากับความเจ็บปวดและมีความยากล าบาก หรือมี
ความทนทุกข์ทรมานเช่นเดียวกับที่ผู้เสียหาย หรือสังคมได้รับ วิธีการลงโทษแต่เดิมใช้ความทารุณโหดร้าย
ซึ่งถูกคัดค้านจากประชาชน ส านักคลาสสิกได้เปลี่ยน แนวคิดในการลงโทษไม่ให้ใช้การลงโทษแบบทรมาน
แต่จ านวนโทษต้องได้สัดส่วนกับความผิด ส่วนเหตุผลการลงโทษยังยึดหลักว่า ผู้กระทาผิดสมควรได้รับโทษ
เพราะทุกคนมีเจตจ านงอิสระวิธีการ ลงโทษเพื่อแก้แค้นทดแทนมีวิธีการลงโทษหลายทาง คือ
(๑) ส าหรับในความผิดที่ร้ายแรงนั้น ควรต้องลงโทษให้สาสมกับความผิดที่ได้กระท าขึ้น
(๒) โดยการใช้ค่าเสียหายหรือค่าทดแทนความเสียหายแทนการถูกลงโทษ หรือ
ื่
(๓) โดยการลงโทษให้สาสมกับความผิด และให้ใช้ค่าเสียหายหรือค่าทดแทนเพอชดเชยความผิด
ที่เกิดขึ้น (Expiation) ด้วย เช่น การลงโทษจ าคุกหรือปรับ หรือทั้งจ าคุกและปรับ และให้คืนทรัพย์ หรือใช้
ราคาทรัพย์แทน
ทฤษฎีการลงโทษเพื่อป้องกันหรือข่มขู่ยับยั้งหรือแบบอรรถประโยชน์ (Utilitarian Theory)
ิ
แนวคิดของทฤษฎีนี้ คือ คนเรากระท าผิดโดยเจตนา และก่อนจะลงมือกระท านั้นก็ ได้พจารณา
ใคร่ครวญถึงผลดีผลเสียแล้วจึงลงมือท าเพราะฉะนั้นรัฐจึงควรออกกฎหมายก าหนด ความผิดและโทษ
ส าหรับความผิดนั้นไว้ให้ชัดเจนและเปิดเผยต่อสาธารณชนเพอป้องกันความผิดที่ จะเกิดขึ้น โดยค านึงถึง
ื่
หลักการของความสุขชื่นชมยินดี และความเจ็บปวดทุกข์ทรมานมาประกอบการพจารณาเพอควบคุม
ื่
ิ
พฤติกรรมของมนุษย์ด้วย เมื่อมีผู้กระท าผิดหรือฝ่าฝืนกฎหมายก็จะต้องได้รับโทษตามที่กฎหมายบัญญัติไว้
ทั้งนี้การลงโทษจะต้องกระท าอย่างรวดเร็ว แน่นอน เสมอภาคกัน และรุนแรงตามความเหมาะสมของโทษ
ที่กาหนดไว้ การลงโทษดังกล่าวย่อมจะมีประโยชน์ต่อสังคม ในด้านการลดอาชญากรรม และส่งเสริมให้คน
ทั่วไปเคารพและปฏิบัติตามกฎหมาย ซีซาร์ เบ็คคาเรีย (Cesare Beccaria) อธิบายว่าการลงโทษที่สามารถ
ข่มขู่ ยับยั้งผู้กระท าผิดได้นั้นควรจะต้องมีลักษณะส าคัญ ๓ ประการ คือ
๑. การลงโทษต้องท าด้วยความรวดเร็ว (Swiftness of punishment)
๒. ความแน่นอนในการลงโทษ (Certainty of punishment) และ
๓. ความเคร่งครัดหรือความรุนแรงในการลงโทษ (Severity of punishment) กล่าวโดยสรุป
ื่
ทฤษฎีการลงโทษแบบอรรถประโยชน์มีวัตถุประสงค์ในการลงโทษเพอป้องกันหรือข่มขู่ยับยั้งไม่ให้ผู้กระท า
ผิดหวนไปกระท าผิดซ้ าขึ้นอีก และขณะเดียวกันก็ป้องกันหรือ ข่มขู่ยับยั้งไม่ให้บุคคลอื่นเอาเยี่ยงอย่างด้วย
ทฤษฎีการลงโทษเพื่อแก้ไขฟื้นฟูผู้กระท าผิด (Rehabilitative Theory)
ื่
ื้
ู
แนวคิดพนฐานของทฤษฎีการลงโทษเพอแก้ไขฟนฟผู้กระท าผิด คือ ผู้กระท าผิดเป็นผู้ป่วย
ื้
การแก้ไขผู้กระท าผิดให้เป็นคนดี ต้องมีขั้นตอนหลายขั้นตอน คือ ขั้นตอนแรก ตรวจสอบหาสาเหตุของ
ปัญหา ขั้นตอนที่สอง วิเคราะห์สาเหตุ และขั้นตอนสุดท้าย รักษาหรือแก้ไขทสาเหตุนั้น ทฤษฎีนี้มีความมุ่ง
ี่
ี
ี
หมายเพยงจะป้องกันไม่ให้บุคคลที่ได้กระท าผิดมาแล้วกลับมากระท าผิดซ้ าอกไม่ได้ มุ่งหมายจะให้มีผลถึง
บุคคลอนโดยตรง กล่าวโดยสรุป ทฤษฎีการลงโทษเพอปรับปรุงแก้ไขฟนฟ มีวัตถุประสงค์ในการลงโทษ
ื่
ื่
ู
ื้
ื่
เพอปรับปรุงแก้ไขผู้กระท าผิดให้เป็นคนดีไม่กลับไปกระท าผิดซ้ าขึ้นอก การลงโทษเพอปรับปรุงแก้ไข
ื่
ี
การปฏิบัติต่อผู้กระท าผิดต้องหาสาเหตุของการกระท าผิดก่อน เมื่อพบสาเหตุจึงแก้ไขที่สาเหตุนั้น