Page 850 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 850

๘๓๘


                 โดยด าเนินการแก้ไขผู้กระท าผิดทั้งเป็นรายบุคคลและเป็นรายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขภายในสถานที่

                                                                     ู
                 ควบคุม หรือในชุมชน ผู้ที่ท าหน้าที่ในการแก้ไขปรับปรุงฟนฟนั้น ควรจะต้องมีความรู้และความช านาญ
                                                                  ื้
                 ในการแก้ไขสาเหตุที่เกิดขึ้นตามแขนงสาขาวิชาที่ได้ศึกษามาด้วย เช่น นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์
                 เป็นต้น เมื่อแก้ไขผู้กระท าความผิดได้ส าเร็จแล้ว ผู้กระท าผิดก็จะไม่ ไปกระท าความผิดขึ้นอีกต่อไป

                        ทฤษฎีการลงโทษเพื่อปกป้องคุ้มครองสังคม (Social Protection Theory)
                        ปัจจุบันนักอาชญาวิทยาของส านักป้องกันสังคมให้ความสนใจในสิ่งส าคัญ คือ บุคลิกภาพของ

                                                                                      ื่
                 ผู้กระท าผิดกฎหมายอาญา และการควบคุมสิ่งแวดล้อมเพอท าให้สังคมดีขึ้น และเพอป้องกันอาชญากรรม
                                                                 ื่
                                                     ื้
                 ซึ่งหลักการดังกล่าวนี้ได้พฒนาเป็นแนวคิดพนฐานของทฤษฎีการลงโทษเพอ ปกป้องคุ้มครองสังคม โดยมี
                                                                              ื่
                                      ั
                 หลักการที่ส าคัญ คือ
                        ๑. ควรจะมีการมองวิธีด าเนินการกับผู้กระท าความผิดอย่างเป็นระบบ โดยมุ่ง คุ้มครองสังคมจาก
                 อาชญากรรมมากกว่าการลงโทษผู้กระท าความผิดเป็นรายบุคคล

                        ๒. การลงโทษผู้กระท าผิดไม่อาจใช้หลักกฎหมายเพียงอย่างเดียวได้ จ าเป็นจะต้องศึกษาพฤติกรรม
                 ของผู้กระท าผิดเป็นรายบุคคล และสถานการณ์ของอาชญากรรม เพอน ามา ประกอบการพจารณาร่วมกันด้วย
                                                                                         ิ
                                                                       ื่
                                                                                        ื่
                 กล่าวโดยสรุปทฤษฎีการลงโทษเพอป้องกันสังคมมีวัตถุประสงค์ในการลงโทษเพอคุ้มครองสังคมให้
                                               ื่
                                                           ื่
                 ปลอดภัย โดยวิธีแยกผู้กระท าผิดออกจากสังคมเพอตัดโอกาสไม่ให้ผู้กระท าผิดได้กระท าผิดขึ้นอกส าหรับ
                                                                                                ี
                             ื่
                                                                             ู
                                                                          ื้
                 การลงโทษเพอคุ้มครองสังคมนั้น มีหลักการส าคัญคือ การแก้ไขฟนฟผู้กระท าผิด และอบรมบ่มนิสัย
                 มากกว่าการลงโทษ โดยเน้นการคุ้มครองสังคมให้ปลอดภัยจากอาชญากรรม ส่วนการลงโทษจะเน้นให้
                 เหมาะสมกบผู้กระท าผิดเป็นรายบุคคล เพื่อให้มีการปรับปรุงแก้ไขฟื้นฟูผู้กระท าผิดให้เป็นคนดี โดยบัญญัติ
                          ั
                 หลักเกณฑ์ในการป้องกันควบคุม และการปรับปรุงแก้ไขผู้กระท าผิดไว้ในกฎหมายอาญาด้วย เช่น

                 หลักเกณฑ์การน าวิธีการเพื่อความปลอดภัยมาใช้กับผู้กระท าผิด


                 หลักสากลที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนซึ่งต้องหาว่ากระท าความผิดหรือเป็นจ าเลยในคดีอาญา
                                                                                                  ๓
                        หลักสากลที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรม ทางอาญา
                 เรื่องสิทธิเด็กและเยาวชนเป็นประเด็นที่นานาประเทศให้ความส าคัญจึงเกิดการผลักดัน ให้มีมาตรฐาน

                 ระหว่างประเทศขึ้นโดยมีบทบัญญัติที่ปกป้องและคุ้มครองสิทธิของเด็กและเยาวชน ในด้านต่าง ๆ
                 ดังต่อไปนี้

                        ๑. กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ค.ศ. ๑๙๖๖ กติกานี้สมัชชาใหญ่

                 แห่งสหประชาชาติได้ให้การรับรองเมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๐๙ โดยประเทศไทยเข้าเป็นภาคีเมื่อวันที่
                 ๒๙ ตุลาคม ๒๕๓๙ และมีผลบังคับวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๔๐ มีบทบัญญัติทั้งหมด ๕๓ ข้อ ในเรื่องสิทธิ


                        ๓  ภาวินี บุณยประสพ, ข้อเสนอแนะแนวทางในการพิจารณาและพิพากษาคดีเด็กและเยาวชนที่กระท า ความผิด
                 ร่วมกัน ตามมาตรา ๑๑๙ แห่งพระราชบัญญัติศาลเยาวชน และครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.

                 ๒๕๕๓ วิทยาลัยข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรม สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ส านักงานศาล
                 ยุติธรรม (๒๕๖๓), หน้า ๖.
   845   846   847   848   849   850   851   852   853   854   855