Page 852 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 852

๘๔๐


                        ๔.๒ มาตรฐานด้านบริหาร คือ การปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนที่กระท าความผิดต่อ เจ้าหน้าที่ทั้ง

                 ก่อนคดีขึ้นสู่ศาลและภายหลังศาลมีค าพพากษาด้วยการน าหลักกฎหมายไม่มีผลย้อนหลังมาใช้ ทั้งนี้จะน า
                                                  ิ
                 กฎหมายที่บัญญัติขึ้นภายหลังที่เด็กและเยาวชนกระท าความผิดก่อนที่มีบทบัญญัติกฎหมายนี้ไม่ได้ให้ความ

                 ช่วยเหลือทางกฎหมายให้มีสิทธิต่อสู้คดีได้เต็มที่ สิทธิได้รับการติดต่อกับบิดามารดา เป็นต้น

                                                                                       ิ
                        ๔.๓ มาตรฐานการปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนที่กระท าผิดในชั้นศาล  การพจารณาความผิดต้อง
                                                               ิ
                 กระท าโดยศาลเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นศาลที่มีลักษณะพเศษรวมถึงมีกระบวนวิธีพจารณาแตกต่างจากคดี
                                                                                     ิ
                                  ิ
                                                                           ื้
                 ทั่วไป การพิจารณาพพากษาคดีเด็กและเยาวชนจะต้องเน้นการแก้ไข ฟนฟูสภาพจิตใจและร่างกายของเด็ก
                 และเยาวชนเป็นส าคัญ ไม่ใช่มุ่งเน้นแต่ลงโทษเด็กและ เยาวชนเฉกเช่นผู้กระท าความผิดที่เป็นผู้ใหญ่
                                                                        ิ
                        ๔.๔ มาตรฐานการปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนภายหลังค าพพากษาต้องไม่กระท าทารุณต่อเด็กและ
                 เยาวชน ต้องไม่ถูกลงโทษอย่างโหดร้ายทารุณ ต้องเหมาะสมกับอายุของเด็กและเยาวชนโดยใช้วิธีการที่
                 เหมาะสมส าหรับเด็กและเยาวชนแต่ละรายบุคคล อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ค.ศ. ๑๙๘๙ มีสถานะเป็น

                 สนธิสัญญาที่มีผลทางกฎหมายทุกประเทศที่เป็นสมาชิกสหประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามพนธกรณีนี้
                                                                                                ั
                                            ี
                 ซึ่งแตกต่างจากปฏิญญาที่เป็นเพยงค าประกาศเจตนารมณ์ ไม่มีข้อผูกพนทางกฎหมายที่ต้องปฏิบัติตาม
                                                                             ั
                 กรณีเช่นนี้จึงสามารถขจัดปัญหาการขาดสภาพบังคับทางกฎหมายของปฏิญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ค.ศ. ๑๙๕๙

                 และกฎแห่งกรุงปักกิ่งได้


                 การด าเนินคดีเด็กและเยาวชนในกฎหมายไทย

                                                                       ิ
                        ตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.
                 ๒๕๕๓ มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้

                        “เด็ก” หมายความว่า บุคคลซึ่งมีอายุเกินกว่าอายุที่ก าหนดไว้ตามมาตรา ๗๓ แห่งประมวล
                 กฎหมายอาญา แต่ยังไม่เกินสิบห้าปีบริบูรณ์

                        “เยาวชน” หมายความว่า บุคคลอายุเกินสิบห้าปีบริบูรณ์   แต่ยังไม่ถึงสิบแปดปีบริบูรณ์

                        มาตรา ๕ คดีอาญาที่มีข้อหาว่าเด็กหรือเยาวชนกระท าความผิด ให้ถืออายุเด็กหรือเยาวชน นั้น
                 ในวันที่การกระท าความผิดได้เกิดขึ้น

                                                                                               ิ

                                           ิ
                        มาตรา ๑๑๕ ในการพจารณาคดีที่เด็กหรือเยาวชนเป็นจ าเลย ให้ศาลที่มีอานาจพจารณาคดี
                 เยาวชนและครอบครัวถือว่าประวัติ อายุ เพศ ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษาอบรม สภาพร่างกาย
                 สภาพจิต นิสัย อาชีพ และฐานะของจ าเลย ตลอดจนสิ่งแวดล้อมทั้งปวงเกี่ยวกับจ าเลย และของบิดา

                 มารดา ผู้ปกครอง หรือบุคคลซึ่งจ าเลยอาศัยอยู่ด้วย หรือบุคคลซึ่งให้การศึกษา ให้ท าการงาน หรือมี ความ
                 เกี่ยวข้องเป็นประเด็นที่จะต้องพิจารณาด้วย


                                                     ิ
                        มาตรา ๑๑๙ ในการพิจารณาและพพากษาคดีทมีขอหาว่าเด็กหรือเยาวชนกระทาความผิด ให้ศาล
                                                                  ้
                                                               ี่

                 ที่มีอานาจพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัวค านึงถึงสวัสดิภาพและอนาคตของเด็กหรือเยาวชน ซึ่งควรจะ
                 ได้รับการฝึกอบรม สั่งสอน และสงเคราะห์ให้กลับตัวเป็นพลเมืองดียิ่งกว่าการที่จะลงโทษ และในการ
                 พิพากษาคดีนั้นให้ศาลค านึงถึงบุคลิกลักษณะ สภาพร่างกายและสภาพจิตของเด็กหรือ เยาวชนซึ่งแตกต่าง
   847   848   849   850   851   852   853   854   855   856   857