Page 853 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 853

๘๔๑


                 กันเป็นคน ๆ ไป และลงโทษหรือเปลี่ยนโทษหรือใช้วิธีการส าหรับเด็กและเยาวชน ให้เหมาะสมกับตัวเด็ก

                 หรือเยาวชน และพฤติการณ์เฉพาะเรื่อง แม้เด็กหรือเยาวชนนั้นจะได้กระท า ความผิดร่วมกัน”
                        จากบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวเห็นว่าการพจารณาพพากษาคดีอาญาที่เด็กและเยาวชน
                                                                  ิ
                                                                          ิ
                 กระท าความผิดค่อนข้างจะแตกต่างจากกระบวนการพจารณาพพากษาคดีอาญาทั่วไปที่ผู้ใหญ่กระท า
                                                                        ิ
                                                                ิ
                 ความผิดที่มุ่งถึงการลงโทษเป็นด้านหลักและถือเป็นการป้องกนคุ้มครองสังคม ส าหรับกรณีเด็กและเยาวชน
                                                                   ั
                 กระท าความผิดนั้นกฎหมายก าหนดให้ศาลค านึงถึงสวัสดิภาพและอนาคตของเด็กและเยาวชนเป็นหลัก

                 โดยมุ่งเน้นถึงการอบรมสั่งสอนและสงเคราะห์ให้กลับตัวเป็นพลเมืองดี  ยิ่งกว่าที่จะมุ่งถึงการลงโทษเหมือน
                                                                           ื้
                                              ี
                                                                              ู
                 ผู้ใหญ่กระท าความผิดหรือกล่าวอกนัยหนึ่ง คือ มุ่งที่จะแก้ไขบ าบัดฟนฟและเยียวยาเด็กและเยาวชนที่
                 กระท าความผิดนั้นเองซึ่งการจะใช้มาตรการใดกับเด็กและเยาวชนคนใดก็ต้องพจารณาจากภูมิหลังและ
                                                                                    ิ
                 สาเหตุที่เป็นปัจจัยให้เด็กและเยาวชนแต่ละคนท าความผิดเพอมุ่งเน้นให้เด็กและเยาวชนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่
                                                                   ื่
                 ดีในอนาคตเพื่อเป็นก าลังหลักในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติต่อไป


                 การก าหนดโทษเด็กและเยาวชน

                        เมื่อศาลพจารณาเป็นที่ยุติว่าเด็กและเยาวชนเป็นผู้กระท าความผิดตามที่ถูกฟองจริง ศาลจะใช้
                                                                                          ้
                                ิ
                 ดุลพนิจว่าควรจะน าวิธีการใดที่เหมาะสมมาใช้กับเด็กและเยาวชนในแต่ละคนตามพระราชบัญญัติ
                     ิ
                 ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ. ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๑๑๙ ดังกล่าว
                                              ิ
                 มาแล้วข้างต้นดังต่อไปนี้

                        ๑. กรณีที่ศาลเห็นว่าสมควรมีค าพิพากษา


                        เนื่องจากคาพิพากษาของศาลที่จะลงโทษแกเด็กและเยาวชนจะต้องค านึงถึงสวัสดิภาพและอนาคต
                                                            ่
                 ของเด็กและเยาวชนเป็นหลัก  รวมทั้งพฤติการณ์ในการกระท าความผิดประกอบการพพากษาคดีของศาล
                                                                                        ิ
                 จ าต้องพจารณาให้เหมาะสมแก่เด็กและเยาวชนแต่ละราย แม้จะมีการท าความผิดร่วมกัน แต่ศาลอาจจะ
                        ิ
                 พิพากษาลงโทษเด็กและเยาวชนนั้นแตกต่างกันได้ซึ่งสามารถทาได้หลายรูปแบบดังนี้

                        ๑.๑ กรณีศาลเห็นว่าควรมีค าพพากษาว่าเด็กและเยาวชนมีความผิด แต่ควรรอการก าหนดโทษ
                                                  ิ
                 หรือรอการลงโทษ

                                                                       ิ
                        ตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.
                 ๒๕๕๓ มาตรา ๑๔๔ คดีอาญาที่อยู่ในอ านาจของศาลเยาวชนและครอบครัวนั้น ศาลที่มีอ านาจพิจารณาคดี

                                       ิ
                 เยาวชนและครอบครัวจะพพากษาว่าเด็กหรือเยาวชนมีความผิดแต่รอการก าหนดโทษหรือก าหนดโทษไว้
                                 ่
                 แต่รอการลงโทษแกเด็กหรือเยาวชนตามประมวลกฎหมายอาญาก็ได้ แม้ว่า
                                                                                ิ
                        (๑) เด็กหรือเยาวชนนั้นได้เคยรับโทษจ าคุกหรือโทษอย่างอื่นตามค าพพากษามาก่อนแล้ว
                        (๒) โทษที่จะลงแก่เด็กหรือเยาวชนเป็นโทษอย่างอื่นนอกจากโทษจ าคุก
                        (๓) ศาลจะก าหนดโทษจ าคุกเกินกว่าสามปี

                        บทบัญญัติของมาตรา ๑๔๔ ดังกล่าวได้บัญญัติถึงหลักเกณฑ์การรอการก าหนดโทษหรือรอการ

                 ลงโทษสอดคล้องกับประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา ๕๖ จะเห็นได้ว่าแม้บทบัญญัติของมาตรา ๑๔๔ และ
   848   849   850   851   852   853   854   855   856   857   858