Page 851 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 851
๘๓๙
ิ
เด็กนั้นได้ก าหนดไว้เป็นการเฉพาะ คือ ห้ามลงโทษเด็กโดยการพพากษาประหารชีวิตเด็กและเยาวชนที่
กระท าความผิดซึ่งมีอายุต่ ากว่า ๑๘ ปี เด็กและเยาวชนซึ่งต้องหาว่ากระท าความผิดต้องแยกออกจาก
ผู้กระท าความผิดที่เป็นผู้ใหญ่ และต้องน าตัวเด็กและเยาวชนซึ่งต้องหาว่ากระท าความผิดเข้าสู่กระบวน
พิจารณาคดีให้เร็วที่สุดเท่าที่จะท าได้
๒. ปฏิญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ค.ศ. ๑๙๕๙ ด้วยเหตุที่คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน แห่ง
่
สหประชาชาติได้พจารณาถึงความออนแอและสภาวะทางร่างกายและจิตใจของเด็กที่ยังเติบโตไม่เต็มที่
ิ
อกทั้งในข้อตกลงระหว่างประเทศยังไม่มีการรับรองว่าเด็กเป็นผู้มีสิทธิสมบูรณ์ในตนเอง เด็กไม่มีสิทธิใน
ี
ฐานะพลเมืองและสิทธิทางการเมืองแต่อย่างใด จ าเป็นต้องมีปฏิญญาที่ระบุถึงสิทธิของเด็กไว้เป็นพเศษ
ิ
สมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติจึงลงมติเห็นชอบในปฏิญญาว่าด้วยสิทธิเด็กเมื่อเดือนธันวาคม
่
๒๕๐๓ โดยมีบทบัญญัติทั้งหมด ๑๐ ข้อ ที่ให้ความส าคัญในสิทธิทางแพงและสิทธิทางการเมืองกับทาง
เศรษฐกิจสังคมและวัฒนธรรม อนเป็นมาตรฐานขั้นต่ าและเป็นหลักประกันสวัสดิภาพที่เด็กและเยาวชน
ั
ทุกคนควรได้รับ
ั
๓. กฎอนเป็นมาตรฐานขั้นต่ าของสหประชาชาติว่าด้วยการบริหารงานยุติธรรม เกี่ยวกับเด็กและ
ั
เยาวชน ค.ศ. ๑๙๘๕ กฎแห่งกรุงปักกิ่ง สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้ให้การรับรองกฎอนเป็น
มาตรฐานขั้นต่ าของสหประชาชาติว่าด้วยการบริหารงานยุติธรรมเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน เมื่อวันที่ ๒๙
พฤศจิกายน ๒๕๒๘ โดยก าหนดกรอบการด าเนินงานของระบบกระบวนยุติธรรมเกี่ยวกับเด็กไว้เป็น ๖ ส่วน
คือ ๑.หลักการทั่วไป ๒.การสอบสวนและการฟองคดี ๓.การพจารณาคดีและการวางข้อก าหนด
้
ิ
๔.การบ าบัดโดยไม่ใช้สถานฝึกอบรมแบบปิด ๕.การบ าบัดโดยใช้สถานฝึกอบรมแบบปิด ๖.การวิจัยและ
วางแผนวางนโยบายและประเมินผล โดยให้ความส าคัญของสิทธิพนฐานของเด็กและเยาวชนในทุกขั้นตอน
ื้
ของกระบวนการ เช่น ได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ สิทธิที่จะต่อสู้คดี และสิทธิที่จะอุทธรณ์
การรักษาความลับ การเคารพสิทธิส่วนตัวของเด็กและเยาวชน เป็นต้น
๔. อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ค.ศ. ๑๙๘๙ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ค.ศ. ๑๙๘๙ ได้ผ่านการ
รับรองจากสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติและมีผลบังคับในวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๓๓ แบ่งได้เป็น ๒ ส่วน
ส่วนที่ ๑ เป็นหลักการต่าง ๆ ในการคุ้มครองเด็ก ส่วนที่ ๒ เป็นหลักเกณฑ์และ วิธีในการบังคับใช้ใน
สาระส าคัญของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กฉบับนี้ก าหนดแนวทางในการปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนที่กระท า
ความผิดไว้ดังต่อไปนี้
๔.๑ มาตรฐานด้านนิติบัญญัติอ านาจในการตรากฎหมาย รัฐจะต้องค านึงถึง หลักการผลประโยชน์
สูงสุดของเด็ก กล่าวคือ การปฏิบัติหรือลงโทษต่อเด็กและเยาวชนที่กระท าความผิดจะต้องค านึงถึงการ
คุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชนเป็นส าคัญ หลักการไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่ากรณีใด ๆ คือ การบัญญัติ
กฎหมาย จะต้องไม่เลือกปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนด้วยเหตุความแตกต่างในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านเชื้อชาติ
ศาสนา ภาษา เพศ นอกจากนี้การออกกฎหมายภายในต้องค านึงถึงความสอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วย
สิทธิเด็ก จะออกกฎหมายเรื่องการปฏิบัติ หรือการลงโทษต่อเด็กและเยาวชนที่กระท าความผิดให้ขัดต่อ
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กไม่ได้