Page 85 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 85
๗๒
บทน า
ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาส าคัญที่ส่งผลกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ ความมั่นคงและความสงบ
เรียบร้อยของประเทศ รัฐจึงให้ความส าคัญในการป้องกันและปราบปรามผู้กระท าความผิดโดยใช้มาตรการทาง
กฎหมายอย่างเข้มงวดและจริงจัง การน าข้อสันนิษฐานตามกฎหมายมาบัญญัติไว้ในกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดเป็น
มาตรการหนึ่งที่รัฐน ามาใช้เป็นเครื่องมือทางกฎหมายในการน าตัวผู้กระท าความผิดมาลงโทษ ดังจะเห็นได้ว่า
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ (เดิม) ได้ก าหนดข้อสันนิษฐานตามกฎหมายแบบเด็ดขาดไว้ว่า
บุคคลใดซึ่งกระท าความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ ประเภท ๒ ประเภท ๔ และประเภท ๕ โดยมี
ยาเสพติดเกินปริมาณที่กฎหมายก าหนดไว้ ให้ถือเป็นเด็ดขาดว่าบุคคลนั้นกระท าเพอจ าหน่าย การที่กฎหมาย
ื่
ก าหนดข้อสันนิษฐานแบบเด็ดขาดไว้เช่นนี้ ท าให้จ าเลยไม่สามารถน าพยานหลักฐานมาสืบเพอให้ศาลเห็น
ื่
ื่
พฤติการณ์หรือเจตนาที่แท้จริงเป็นอย่างอนได้ และอาจท าให้จ าเลยต้องได้รับโทษที่หนักขึ้น อันเป็นผลมาจาก
แนวคิดสังคมปลอดยาเสพติด (Zero Tolerance) ที่มุ่งเน้นการปราบปรามอย่างเด็ดขาด
ปัจจุบันข้อสันนิษฐานตามกฎหมายแบบเด็ดขาดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒
๑
(เดิม) นี้ได้ถูกแก้ไขโดยพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งแก้ไขจากเดิมที่ก าหนดให้
การผลิต น าเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ ประเภท ๒ ประเภท ๔ และ
ื่
ประเภท ๕ ตามปริมาณที่ก าหนดไว้ “ให้ถือว่า เป็นการผลิต น าเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองเพอจ าหน่าย”
เป็น “ให้สันนิษฐานว่า เป็นการผลิต น าเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจ าหน่าย” อันเป็นข้อสันนิษฐานตาม
กฎหมายแบบไม่เด็ดขาด ที่เปิดโอกาสให้จ าเลยสามารถน าพยานหลักฐานมาสืบหักล้างข้อสันนิษฐานตามกฎหมาย
เพื่อพิสูจน์เจตนาที่แท้จริงได้ ส่วนพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๕๙ มีการก าหนดข้อ
สันนิษฐานตามกฎหมายแบบไม่เด็ดขาดไว้ เช่น การมีวัตถุออกฤทธิ์ชื่อและประเภทใดไว้ในครอบครอง
ื่
ซึ่งค านวณเป็นสารบริสุทธิ์เกินปริมาณที่ก าหนดในกฎกระทรวง ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพอขาย ซึ่งเปิด
โอกาสให้จ าเลยสามารถน าพยานหลักฐานมาสืบหักล้างข้อสันนิษฐานตามกฎหมายเพอพสูจน์เจตนาที่แท้จริงได้
ิ
ื่
ิ
เช่นกัน แต่การใช้ข้อสันนิษฐานตามกฎหมายแบบไม่เด็ดขาดในปัจจุบันนี้ มีข้อพจารณาถึงปริมาณยาเสพติดที่ใช้
ั
ื่
เป็นข้อสันนิษฐานความรับผิดเพอจ าหน่ายหรือเพอขายว่า มีความสัมพนธ์กันกันอย่างสมเหตุสมผลหรือไม่
ื่
โดยเฉพาะปริมาณของเมทแอมเฟตามีน อนเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ ซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่การแก้ไขโดย
ั
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ นอกจากนี้บทก าหนดโทษโดยเฉพาะในความผิดฐานมี
เมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตกับฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพอจ าหน่าย มี
ื่
๑ มีผลใชบังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ ๑๕
้
มกราคม ๒๕๖๐