Page 88 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 88
๗๕
ข้อสันนิษฐานตามกฎหมาย จึงเป็นบทกฎหมายที่บัญญัติการรับฟังข้อเท็จจริง ซึ่งจะน ามาใช้ได้ต่อเมื่อ
ิ
ั
ิ
มีการพสูจน์ข้อเท็จจริงอนเป็นเงื่อนไขของข้อสันนิษฐาน (Basic fact) ให้ปรากฏ เมื่อพสูจน์ให้ปรากฏแล้ว
ศาลจ าต้องสันนิษฐานหรืออาจสันนิษฐานได้ว่าข้อเท็จจริงตามที่สันนิษฐาน (Presumed fact) นั้นได้เกิดขึ้น
๖
ข้อสันนิษฐานตามกฎหมาย แบ่งได้เป็น ๒ ประเภท คือ
ั
๑ ข้อสันนิษฐานตามกฎหมายแบบเด็ดขาด (Irrebuttable Presumption) มีผลให้ศาลต้องรับฟง
ื่
ข้อเท็จจริงไปตามที่กฎหมายบัญญัติโดยไม่อาจรับฟงเป็นอย่างอน และไม่เปิดโอกาสให้คู่ความอกฝ่ายหนึ่งน าสืบ
ั
ี
ิ
ื่
หักล้างข้อสันนิษฐานเป็นอย่างอนได้ ข้อสันนิษฐานใดจะเป็นข้อสันนิษฐานแบบเด็ดขาดหรือไม่ ต้องพจารณาจาก
ถ้อยค าในบทบัญญัตินั้น ๆ เอง เช่น ให้ถือว่า ต้องถือว่า เป็นต้น
ี
๒ ข้อสันนิษฐานตามกฎหมายแบบไม่เด็ดขาด (Rebuttable Presumption) มีผลเพยงเป็นการผลัก
ิ
ภาระการพสูจน์ไปให้คู่ความอกฝ่ายหนึ่งที่จะต้องน าสืบหักล้างข้อสันนิษฐานนั้น หากข้อสันนิษฐานมีอยู่เป็นคุณแก ่
ี
ฝ่ายใด ฝ่ายนั้นมีหน้าที่น าสืบแต่เพยงว่าได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขนั้นแล้ว ตนก็จะได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานนั้น
ี
ี
โดยเป็นหน้าที่ของคู่ความอกฝ่ายหนึ่งที่จะต้องน าสืบหักล้างข้อสันนิษฐานนั้นเอง ข้อสันนิษฐานแบบไม่เด็ดขาดนี้
บทบัญญัติแห่งกฎหมายมักจะใช้ค าว่า ให้สันนิษฐานว่า หรือท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า เป็นต้น
๗
เหตุผลของการบัญญัติข้อสันนิษฐานตามกฎหมายในคดีอาญา สรุปได้ดังนี้
ื่
๑ เพอช่วยเสริมนโยบายปราบปรามอาชญากรรมบางประเภทของรัฐ เนื่องจากรัฐซึ่งเป็นฝ่ายโจทก์
ต้องพิสูจน์องค์ประกอบความผิดให้ครบถ้วนและพิสูจน์ว่าจ าเลยเป็นผู้กระท าความผิดจนปราศจากความสงสัยตาม
สมควร มาตรฐานการพิสูจน์เช่นนี้ใช้กับคดีอาญาทุกคดี เพื่อคุ้มกันผู้บริสุทธิ์ไม่ให้ถูกลงโทษ แต่ในอีกด้านหนึ่งท าให้
เจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมต้องท างานหนักในการรวบรวมพยานหลักฐานให้เพียงพอและน่าเชื่อถือพอที่ศาล
จะลงโทษได้ ซึ่งในคดีบางประเภท อาจจะหาพยานหลักฐานได้ยาก ท าให้ผู้กระท าความผิดหลุดรอดจากการลงโทษ
ตามกฎหมาย วิธีการแก้ของฝ่ายรัฐ คือ ลดมาตรฐานการพสูจน์ข้อเท็จจริงในความผิดบางประเภทลง ท าให้การ
ิ
ิ
รวบรวมพยานหลักฐานท าได้ง่ายขึ้น ซึ่งวิธีการลดมาตรฐานการพสูจน์ข้อเท็จจริงที่ง่ายที่สุดคือ การออกกฎหมาย
ิ
ื่
ก าหนดข้อสันนิษฐาน เพอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ต้องพสูจน์ข้อเท็จจริงที่ได้รับการสันนิษฐาน ซึ่งมักเป็น
องค์ประกอบความผิดที่หาพยานหลักฐานได้ยาก
๒ ฝ่ายนิติบัญญัติต้องการแทรกแซงการใช้ดุลพินิจประเมินพยานแวดล้อมเพอสรุปข้อเท็จจริงแห่งคดี
ื่
ิ
ิ
ิ
ของศาล ตามปกติในการพจารณาคดีอาญาศาลมีอานาจเต็มที่ในการใช้ดุลพนิจพจารณาว่าพยานหลักฐานของ
ื
โจทก์เพียงพอและน่าเชื่อถอหรือไม่ การก าหนดข้อสันนิษฐานเป็นการวางแนวทางแก่ศาลว่า ถ้าโจทก์มีพยานพิสูจน์
ข้อเท็จจริงที่เป็นเงื่อนไขของการสันนิษฐาน ศาลต้องฟงข้อเท็จจริงเป็นยุติว่าข้อเท็จจริงที่รับการสันนิษฐานเกิดขึ้น
ั
๖ เพิ่งอ้าง, หน้า ๗.
๗ เพิ่งอ้าง, หน้า ๗.