Page 900 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 900
๘๘๘
ข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการเรียกประกันหรือ
๒๒
หลักประกันในการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจ าเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๘
ุ
ิ
ข้อ ๖ กรณีที่ศาลพพากษาลงโทษจ าคุกจ าเลยไม่เกินสามปี ไม่ว่าจะเป็นคดีที่ต้องห้ามอทธรณ์ฎีกา
ในปัญหาข้อเท็จจริงหรือไม่ก็ตาม ให้ศาลใช้ดุลพนิจอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างอทธรณ์ฎีกาได้ โดย
ิ
ุ
มีประกันและหลักประกันแต่วงเงินประกันไม่ควรสูงเกินกว่า ๑๐๐,๐๐๐ บาท
ิ
ในกรณีที่ศาลพพากษาลงโทษจ าคุกจ าเลยเกินสามปีและศาลเห็นสมควรอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว
ในระหว่างอทธรณ์ฎีกาได้ โดยมีประกันและหลักประกัน หากศาลเห็นว่าสมควรก าหนดวงเงินประกันให้
ุ
ิ
ิ
สูงขึ้นจากที่ศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ก าหนดไว้ก็ให้ก าหนดวงเงินประกันเพ่มขึ้นได้แต่ไม่ควรเพ่มเกิน
กึ่งหนึ่ง
ิ
การพจารณาค าร้องขอปล่อยชั่วคราวของศาลยุติธรรมนั้น ในระเบียบราชการฝ่ายตุลาการ
ศาลยุติธรรม ว่าด้วยการปล่อยชั่วคราว พ.ศ. ๒๕๔๘ ข้อ ๒ ได้ก าหนดไว้ว่า “เมื่อศาลได้รับค าร้องขอให้
ิ
ปล่อยชั่วคราวแล้ว ให้รีบพจารณาและมีค าสั่งโดยเร็วโดยให้ถือเป็นหลักว่าผู้ต้องหาหรือจ าเลย จึงได้รับ
อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เว้นแต่จะมีเหตุจ าเป็นต้องควบคุมหรือขังผู้ต้องหาหรือจ าเลยนั้นไว้ ก็ให้ระบุ
เหตุผลไว้โดยครบถ้วนและชัดแจ้ง และพจารณาสั่งในแนวเดียวกัน” ประกอบกับข้อบังคับของประธาน
ิ
ศาลฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการเรียกประกัน หรือหลักประกันในการปล่อย
ชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจ าเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๘ ข้อ ๔ ได้ก าหนดไว้ว่า “เมื่อศาลพิจารณาค าร้องขอให้
ปล่อยชั่วคราวแล้วเห็นว่าเป็นกรณีที่สมควรให้ปล่อยชั่วคราวได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ
อาญา มาตรา ๑๐๘ ก็ให้ศาลพิจารณาว่า จะให้ปล่อยชั่วคราวโดยมีประกันหรือไม่มีประกันแล้วแต่กรณี”
นอกจากนี้ได้มีข้อบังคับของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการ
เรียกประกันหรือหลักประกันในการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจ าเลยในคดีอาญา (ฉบับที่ ๒ ) พ.ศ. ๒๕๖๒
ข้อ ๓ คดีที่มีอตราโทษจ าคุกอย่างสูงไม่เกิน ๑๐ ปี ให้ศาลใช้ดุลพนิจอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวได้โดยไม่ต้อง
ิ
ั
มีประกัน หากมีเหตุจ าเป็นต้องมีประกันให้ก าหนดวงเงินไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท เว้นแต่มีเหตุสมควรจะสั่ง
ิ
ื่
เป็นอย่างอน ก็ให้ระบุเหตุนั้นไว้โดยชัดแจ้ง โดยให้ศาลพจารณาถึงความร้ายแรงแห่งข้อหา สาเหตุและ
พฤติการณ์ การกระท าความผิด รวมทั้งบุคลิกลักษณะนิสัย สภาพทางร่างกายและจิตใจ การศึกษา
การประกอบ อาชีพการงาน ประวัติการกระท าความผิดอาญา สภาพและฐานะของครอบครัว และ
ความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นในสังคมของผู้ต้องหาหรือจ าเลยประกอบด้วย อันจะท าให้ได้ทราบ ข้อมูลเกี่ยวกับ
ตัวผู้ต้องหาหรือจ าเลยอย่างเพียงพอ ส่งผลให้ศาลมีความมั่นใจที่จะอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวได้โดย
ื่
ไม่ต้องมีประกัน ท าให้ผู้ถูกกล่าวหามีโอกาสที่จะไปแสวงหาพยานหลักฐานในการต่อสู้คดีเพอพสูจน์
ิ
๒๒ ข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการเรียกประกันหรือหลักประกัน
ในการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจ าเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๘