Page 903 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 903
๘๙๑
๖.๒ จากการสัมภาษณ์
นอกจากนี้ จากการที่ผู้เขียนสัมภาษณ์ท่านผู้พิพากษาในศาลอทธรณ์ภาค ๔ บางท่าน ซึ่งแต่ละท่าน
ุ
ได้ให้ความเห็นส่วนตัวไว้ ดังนี้
ท่านศุทธิพงศ์ ภูสุวรรณ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค ๔ เห็นว่า ควรค านึงว่าจ าเลย
หลบหนีหรือไม่ เป็นส าคัญ โดยพจารณาว่า เคยได้รับการปล่อยชั่วคราวมาก่อนแล้วหลบหนีหรือไม่ หากไม่
ิ
เคยหลบหนีจะอนุญาต หากเคยหลบหนีจะไม่อนุญาต ส าหรับกรณีไม่เคยขออนุญาตปล่อยชั่วคราวมาก่อน
จะพิจารณาฐานความผิดว่ายอมความได้หรือไม่ ประกอบกับพิจารณาว่าหลักประกันว่าเป็นของคนเกี่ยวข้อง
ั
ใกล้ชิดจ าเลย เช่น บิดามารดาหรือไม่ อนเป็นหลักเกณฑ์เบื้องต้น แต่หากมีข้อเท็จจริงในคดีที่แสดงว่าหาก
ปล่อยชั่วคราวแล้วอาจหลบหนี ซึ่งไม่จ าต้องพจารณาว่าคดีจะรอการลงโทษได้หรือไม่ ก็จะไม่อนุญาตให้
ิ
ปล่อยชั่วคราว
๒๓
ท่านวิชัย วิริยะสุนทรวงศ์ ผู้พพากษาหัวหน้าคณะในศาลอทธรณ์ภาค ๔ เห็นว่า การใช้ดุลพนิจใน
ิ
ุ
ิ
การปล่อยชั่วคราว ในกรณีที่จ าเลยเคยได้รับโทษจ าคุกมาก่อน ไม่ใช่ข้อสาระส าคัญที่จะน ามาพจารณาเป็น
ิ
หลัก แต่จะพิจารณาถึงหลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๐๘ โดยมุ่งเน้นที่
จ าเลยมีพฤติการณ์หลบหนีหรือไม่ ภัยอนตรายหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการปล่อยชั่วคราวมีหรือไม่
ั
เพยงใด ถึงแม้จ าเลยจะให้การรับสารภาพในศาลชั้นต้น แต่เป็นการให้โอกาสจ าเลยไปจัดการชีวิตส่วนตัว
ี
ื่
ั
และครอบครัว หรือในคดีความผิดอนยอมความได้ อาจให้โอกาสจ าเลยเพอหาเงินมาบรรเทาผลร้ายให้กับ
๒๔
ทางฝ่ายผู้เสียหาย
ุ
ท่านอุตสาห์ ทองโคตร ผู้พิพากษาศาลอทธรณ์ภาค ๔ เห็นว่า การพิจารณาให้ปล่อยชั่วคราวจ าเลย
ิ
หรือผู้ต้องหาใช้หลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญา มาตรา ๑๐๘ โดยค านึงถึงความ
ั
หนักเบาแห่งข้อหาว่าเป็นข้อหาที่มีอตราโทษสูง และผู้ต้องหาหรือจ าเลยน่าจะหลบหนีหรือไม่ กรณีที่จ าเลย
ถูกพพากษาให้เพมโทษ อันมีความหมายอยู่ในตัวว่าไม่อาจรอการลงโทษจ าคุกให้แก่จ าเลยได้ก็ตาม แต่
ิ่
ิ
ศาลสูงก็มีอ านาจในการอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวได้ เนื่องจากการพิจารณาคดีในชั้นอทธรณ์อาจมีการลด
ุ
ิ
โทษลงให้น้อยกว่าที่ศาลชั้นต้นพพากษาก็ได้ ซึ่งจะเป็นผลดีกับจ าเลย แม้จ าเลยอาจไม่ได้รับการรอการ
ลงโทษจ าคุกตามเงื่อนไขของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ก็ตาม ประกอบกับปัจจุบันมีการแพร่
ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ในเรือนจ า ดังนั้น การให้โอกาสจ าเลยได้รับประกันตัวในระหว่าง
อุทธรณ์น่าจะส่งผลดีต่อการควบคุมไม่ให้โรคระบาดดังกล่าวแพร่กระจายได้ และเป็นการป้องกันการสูญเสีย
ชีวิตของบุคคลที่อาจติดเชื้อดังกล่าวในเรือนจ า ซึ่งเป็นสถานที่แออด ดังนั้นการให้ประกันตัวจ าเลยในคดี
ั
ดังกล่าวจึงอยู่ในเงื่อนไขของประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญามาตรา ๑๐๘ ที่ศาลสูงอาจใช้ดุลพินิจ
ิ
๒๓ ศุทธิพงศ์ ภูสุวรรณ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค ๔ สัมภาษณ์วันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๔
๒๔ วิชัย วิริยะสุนทรวงศ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค ๔ สัมภาษณ์วันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๔