Page 906 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 906

๘๙๔


                         ปี ๒๕๖๓ มีการยื่นค าร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ๕๓๐ คดี เป็นคดีที่จ าเลยเคยถูกต้องโทษจ าคุก
                                     ุ
                  มาก่อน ๖๐ คดี ศาลอทธรณ์ภาค ๔ มีค าสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ๔๒ คดี ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว
                  ๑๘ คดี ซึ่งคดีที่จ าเลยเคยต้องโทษจ าคุกมาก่อนทั้งในปี ๒๕๖๒ และปี ๒๕๖๓ มีเพียงคดีเดียวเท่านั้นที ่

                  ศาลชั้นต้นลงโทษจ าคุกจ าเลยเกินสามปี ส่วนที่เหลือโดยส่วนใหญ่ลงโทษจ าคุกไม่เกินหนึ่งปี และจากการ

                             ิ
                  สัมภาษณ์ผู้พพากษาศาลอทธรณ์ภาค ๔ บางท่าน ส่วนใหญ่มีความเห็นไปในท านองว่า การที่จ าเลยเคย
                                        ุ
                                                                                 ิ
                  ต้องโทษจ าคุกมาก่อนไม่ใช่ข้อส าคัญที่จะน ามาพจารณาเป็นหลัก แต่จะพจารณาว่าจ าเลยมีพฤติการณ์
                                                           ิ
                  หลบหนีหรือไม่ ภัยอันตรายที่เกิดจากการปล่อยชั่วคราวมีหรือไม่เพียงใดเป็นส าคัญ อันจะเห็นได้ว่า
                  ศาลอทธรณ์ภาค ๔ มีค าสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสอดคล้องกับข้อบังคับของ
                       ุ
                  ประธานศาลฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการเรียกประกันหรือหลักประกันในการ
                  ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจ าเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๘ ข้อ ๖ วรรคหนึ่ง ซึ่งก าหนดในท านองว่า กรณีที่

                  ศาลพพากษาลงโทษจ าคุกจ าเลย ไม่เกินสามปีไม่ว่าจะเป็นคดีต้องห้ามอทธรณ์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
                       ิ
                                                                               ุ
                  หรือไม่ก็ตาม ให้ศาลใช้ดุลพนิจอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างอทธรณ์ฎีกาโดยมีประกันและ
                                                                                ุ
                                           ิ
                  หลักประกัน แต่วงเงินไม่ควรสูงเกินกว่า ๑๐๐,๐๐๐ บาท และในวรรคสอง ก าหนดว่า ในกรณีที่
                  ศาลพิพากษาลงโทษจ าคุกจ าเลยเกินสามปี และศาลเห็นสมควรอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างอทธรณ์
                                                                                                    ุ
                  ฎีกาได้โดยมีประกันและหลักประกัน หากศาลเห็นสมควรก าหนดวงเงินประกันให้สูงขึ้นจากที่ศาลชั้นต้น

                                                                ิ่
                  หรือศาลอทธรณ์ก าหนดไว้ ก็ให้ก าหนดวงเงินประกันเพมขึ้นได้แต่ไม่ควรเกินกึ่งหนึ่งปัญหาการใช้ดุลพนิจ
                                                                                                       ิ
                           ุ
                  ในการปล่อยชั่วคราว ในคดีที่จ าเลยเคยต้องโทษจ าคุกมาก่อน เหตุที่ผู้พพากษา ไม่อนุญาตให้ประชั่วคราว
                                                                             ิ
                  สาเหตุส าคัญประการหนึ่งคือการที่ผู้พิพากษามองว่า จ าเลยให้การรับสารภาพ เมื่อจ าเลยเคยถูกต้องโทษ
                  จ าคุกมาก่อน คดีนี้จึงไม่อาจรอการลงโทษได้ อกประการอาจมองว่าศาลชั้นต้นลงโทษจ าคุกขั้นต่ าแล้ว
                                                           ี
                  ศาลชั้นอุทธรณ์ไม่อาจเปลี่ยนแปลงแก้ไขเป็นอย่างอื่น จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว

                                                              ิ
                         การปล่อยชั่วคราวในคดีที่ศาลชั้นต้นมีค าพพากษาลงโทษจ าคุกจ าเลย หากศาลชั้นต้นเห็นควร
                  อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ศาลชั้นต้นจะมีค าสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวได้ แต่หากจะไม่อนุญาตให้ปล่อย

                                                                                ิ
                  ชั่วคราวนั้น จะต้องส่งค าร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวให้ศาลอทธรณ์ภาค ๔ พจารณาสั่ง ในกรณีที่จ าเลยเคย
                                                                  ุ
                  ต้องโทษจ าคุกมาก่อนแล้วมากระท าความผิดในคดีนี้อีก หากศาลชั้นต้นมีค าพิพากษาแล้ว จ าเลยยังคงมีสิทธิ
                  ที่จะอุทธรณ์คัดค้านค าพพากษาของศาลชั้นต้นนั้นได้ ระหว่างนี้จ าเลยมีสิทธิที่จะได้รับการปล่อยชั่วคราว ซึ่ง
                                      ิ
                  การปล่อยชั่วคราวนี้เป็นสิทธิของจ าเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๐๘ มาตรา

                  ๑๐๘/๑ มาตรา ๑๐๙ มาตรา ๑๑๐ มาตรา ๑๑๑ มาตรา ๑๑๒ มาตรา ๑๑๓ และมาตรา ๑๑๓/๑ ซึ่ง

                  กฎหมายรัฐธรรมนูญก็ได้บัญญัติรับรองไว้ใน มาตรา ๒๙ วรรคสอง โดยให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือ
                  จ าเลยไม่มีความผิดและก่อนมีค าพพากษาอนถึงที่สุดว่าบุคคลใดกระท าความผิดจะปฏิบัติต่อบุคคลนั้น
                                                ิ
                                                       ั
                  เสมือนผู้กระท าความผิดไม่ได้ และในวรรคสาม บัญญัติว่า การควบคุมหรือคุมขังผู้ต้องหาหรือจ าเลยให้

                  กระท าเท่าที่จ าเป็นเพื่อป้องกันมิให้มีการหลบหนี
   901   902   903   904   905   906   907   908   909   910   911