Page 904 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 904
๘๙๒
ในการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจ าเลย เหตุผลอกประการหนึ่งที่เป็นผลดีต่อการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว
ี
ระหว่างอุทธรณ์ของคดีประเภทนี้ ก็คือการที่จ าเลยมีโอกาสได้ไปอยู่กับครอบครัว มีเวลาที่จะจัดการภารกิจ
ื่
ุ
ของตนอันจ าเป็นต้องด าเนินการก่อนที่จะถูกจ าคกเมอคดีจะถึงที่สุด
๒๕
ท่านบัณฑิต สีอไรย์ ผู้พพากษาศาลอทธรณ์ภาค ๔ เห็นว่า การใช้ดุลพนิจในการปล่อยชั่วคราว
ิ
ุ
ิ
ุ
ิ
กรณีที่จ าเลยเคยได้รับโทษจ าคุกมาก่อนไม่ใช่ข้อสาระส าคัญที่จะน ามาพจารณาเป็นหลัก แต่ให้ค านึงถึง
พฤติการณ์แห่งคดีนี้ ความหนักเบาแห่งข้อหา ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษมากน้อยเพียงใด และหลักประกัน
ี
น่าเชื่อถือหรือไม่เพยงใด ตลอดจนจ าเลยมีพฤติการณ์หลบหนีหรือไม่เป็นหลัก แม้จ าเลยจะให้การรับ
สารภาพในศาลชั้นต้น แต่ เป็นการให้โอกาสจ าเลยไปจัดการชีวิตส่วนตัวและครอบครัวก่อน รวมทั้งเหตุผล
๒๖
อื่น ๆ เช่น จ าเลยอาจขอเวลาบรรเทาผลร้ายแก่ผู้เสียหาย เพื่อให้ศาลลงโทษสถานเบากว่าเดิม เป็นต้น
ท่านเลิศชาย สุวพงษ์ ผู้พพากษาศาลอทธรณ์ภาค ๔ เห็นว่า เกี่ยวกับดุลพนิจในการปล่อยชั่วคราว
ิ
ุ
ิ
ิ
กรณีจ าเลยเคยต้องโทษจ าคุกมาก่อน ก่อนอื่นต้องพจารณาถึงบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๕๖๐ ในหมวด ๓ ว่าด้วย สิทธิ และเสรีภาพของปวงชนชาวไทยซึ่งบัญญัติไว้ในมาตรา ๒๘ ว่า
บุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย และในมาตรา ๒๙ วรรคสอง ที่บัญญัติไว้ว่า ในคดีอาญา
ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจ าเลยไม่มความผิด และก่อนมีค าพพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่า บุคคลใด
ี
ิ
ิ
ได้กระท าความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้น เสมือนเป็นผู้กระท าความผิดมิได้ จากนั้นจะต้องมาพจารณา
ิ
ประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญา ว่าด้วยการปล่อยชั่วคราวใน มาตรา ๑๐๘ ซึ่งได้วางหลักเกณฑ์
ิ
ี
ของการปล่อยชั่วคราวไว้โดยให้พจารณาถึงความหนักเบาแห่งข้อหา พยานหลักฐานที่ปรากฏแล้วมีเพยงใด
พฤติการณ์ต่าง ๆ แห่งคดีเป็นอย่างไรเชื่อถือผู้ร้องขอประกันหรือหลักประกันเพียงใด ผู้ต้องหาหรือจ าเลยจะ
หลบหนีหรือไม่ ภัยอันตรายหรือความเสียหายจากเกิดจากการปล่อยชั่วคราวมีเพียงใด เป็นต้น
ดังนั้นเมื่อพจารณาประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๕๖ ที่แก้ไขใหม่ แม้จ าเลยจะเคยต้องโทษจ าคุก
ิ
มาก่อนซึ่งในคดีหลังอาจรอการลงโทษได้ หรือไม่อาจรอการลงโทษได้การพิจารณาถึงการปล่อยชั่วคราวตาม
มาตรา ๑๐๘ ประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญาในทางปฏิบัติซึ่งก็มีความเห็นอยู่สองฝ่าย ฝ่ายหนึ่ง
ิ
เห็นว่า เมื่อรอการลงโทษในคดีหลังไม่ได้ ก็ไม่ควรปล่อยชั่วคราว แต่อีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่า ถ้าโทษในคดีหลังสูง
เกินห้าปี ก็ไม่ควรปล่อยชั่วคราวแต่หากโทษในคดีหลังไม่เกินห้าปีและอยู่ในเกณฑ์รอการลงโทษได้หรือไม่ก ็
ตาม ศาลก็ใช้ดุลพนิจในการปล่อยชั่วคราวได้ เพอให้จ าเลยหรือผู้ต้องหาได้มีโอกาสจัดการในเรื่องส่วนตัว
ื่
ิ
บางอย่างก่อนได้ซึ่งในทางปฏิบัติก็มีกรณีเช่นนี้อยู่เป็นจ านวนมาก และเมื่อถึงวันนัดส่งตัวจ าเลยก็ไม่ได้
หลบหนีแต่อย่างใด แต่ก็มีบางกรณีจ าเลยก็อาจหลบหนีได้แต่ก็เสี่ยงกับการถูกปรับตามสัญญาประกัน
ฉะนั้นเมื่อค านึงถึงสิทธิและเสรีภาพของผู้ต้องหาหรือจ าเลยตามรัฐธรรมนูญเป็นหลักแล้ว ศาลควรใช้
๒๕
อุตสาห์ ทองโคตร ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๔ สัมภาษณ์วันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๔
๒๖ บัณฑิต สีอุไรย์ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๔ สัมภาษณ์วันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๔