Page 913 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 913
๙๐๑
เรียบร้อยของสังคมสูญสิ้นไป ความไม่เชื่อถือและไม่เคารพกฎหมายก็จะมากขึ้น คดีอาญาทั้งปวงที่เข้าสู่
กระบวนการยุติธรรมทางอาญาจะต้องด าเนินไปตามขั้นตอนต่าง ๆ ที่ก าหนดไว้อย่างสม่ าเสมอ โดยมี
๙
กระบวนการกลั่นกรอง (Screening Process) ในแต่ละขั้นตอน
๓. ทฤษฎีความชอบด้วยกระบวนการทางกฎหมาย (Due Process)
ทฤษฎีนี้ยึดหลักกฎหมายเป็นส าคัญ และยึดการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนซึ่งเป็นไป
๑๐
ตามหลักนิติธรรม (Rule of Law) เป็นการใช้กฎหมายอย่างเป็นระบบและมีเหตุผล ทฤษฎีนี้มี
แนวความคิดตรงข้ามกับทฤษฎีการควบคุมอาชญากรรม แต่จะเน้นหนักไปทางการให้ความคุ้มครองสิทธิ
ของประชาชนมากกว่าที่จะพยายามป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมโดยยึดกฎหมายเป็นหลัก การ
ด าเนินคดีอาญาจะต้องมีความเป็นธรรมตามรูปแบบและขั้นตอนต่างๆ ในกระบวนการยุติธรรม ต้องจัดให้มี
ิ
การพจารณาคดีหรือไต่สวนข้อกล่าวหาของผู้ต้องหาอย่างเป็นทางการและเปิดเผยในศาลยุติธรรม ทฤษฎีนี้
มีแนวความคิดว่าบุคคลจะไม่ถูกกล่าวหาว่ากระท าอาชญากรรม เพราะว่ามีพยานหลักฐานว่าเขาได้กระท า
เท่านั้น แต่จะมีความผิดก็ต่อเมื่อมีผู้มีอานาจตามกฎหมายได้พจารณาพพากษาชี้แจงแล้วว่าเขามีความผิด
ิ
ิ
ิ
ิ
นอกจากนี้ ผู้มีอานาจพจารณาพพากษาก็ต้องปฏิบัติตามตัวบทกฎหมายต่างๆ ที่ให้ความคุ้มครองสิทธิของ
เขาอย่างถี่ถ้วน และทฤษฎีนี้เห็นว่าไม่ควรปล่อยให้องค์กรอื่นมาวินิจฉัยข้อเท็จจริงในคดีก่อนที่จะน าคดีขึ้นสู่
ศาล เนื่องจากเห็นว่ามีแต่องค์คณะผู้พิพากษาที่เป็นกลางไม่ล าเอียงเท่านั้นที่เชื่อถือได้
๔. ทฤษฎีการลงโทษ
แนวความคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับการลงโทษ มีดังนี้
๔.๑ ทฤษฎีการลงโทษเพื่อแก้แค้นทดแทน (Retribution Theory) วัตถุประสงค์ใน
ื่
การลงโทษผู้กระท าความผิดตามทฤษฎีนี้ เพอแก้แค้นหรือทดแทนให้กับผู้เสียหายและสังคม เป็นการ
ลงโทษเพื่อให้สอดคล้องกับความรู้สึกของผู้เสียหายและสังคม กล่าวคือ โดยทั่วไปเมื่อมีการกระท าความผิด
เกิดขึ้นผู้เสียหายและสังคมมักจะต้องการให้ผู้กระท าผิดได้รับการลงโทษอย่างสาสมกับความผิดที่ได้กระท า
ขึ้น ตามหลัก “ตาต่อตาฟันต่อฟัน” (an eye for an eye, and a tooth for a tooth) ดังนั้น ความรุนแรง
ของการลงโทษต้องได้สัดส่วนกับความร้ายแรงของความผิด วิธีการลงโทษมีทั้งการประหารชีวิต การลง
ทัณฑ์ ทรมานด้วยรูปแบบต่าง ๆ ในระยะแรกการลงโทษผู้กระท าความผิดถือเป็นเรื่องที่ผู้เสียหายจะต้อง
ด าเนินการแก้แค้นผู้กระท าผิดเอง แต่ต่อมารัฐเข้ามาเป็นผู้ลงโทษผู้กระท าผิดเสียเองเนื่องจากการแก้แค้น
กันเองก่อให้เกิดความไม่สงบสุขขึ้นในสังคม เพราะมีการแก้แค้นกันไปมาไม่สิ้นสุด นอกจากนี้เพอเป็นการ
ื่
๑๑
ช่วยผู้ที่อ่อนแอซึ่งไม่สามารถแก้แค้นผู้กระท าผิดด้วยตัวเองได้ให้ได้รับความยุติธรรมเช่นเดียวกัน
๙ ประธาน วัฒนาวานิชย์, ๒๕๒๐, หน้า ๑๕๒.
๑๐ Modern Policing Community Policing in CSD. ทฤษฎีการบังคับใช้กฎหมาย. มปป. หน้า ๓๐.
๑๑ รุ่งโรจน์ รื่นเริงวงศ์, “มาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับการลงโทษผู้กระท าผิดกฎหมายจราจร,” (วิทยานิพนธ์
นิติศาสตรมหาบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามค าแหง , ๒๕๔๓), หน้า ๓๖.